โยกงบ 2 พันล้าน เปลี่ยนแอร์ทุกเครื่อง ของอาคารราชการ และเพิ่มการติดตั้ง แผงโซลาร์เซลล์
รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ในฐานะประธานการประชุมกองทุนส่งเสริมอนุรักษ์พลังงาน กล่าวว่า ที่ประชุมมีมติอนุมัติการปรับปรุงประสิทธิภาพการประหยัดพลังงานด้วยการยกเลิกการจัดซื้อเครื่องปรับอากาศใช้ในสำนักงานอาคารของภาครัฐจำนวน 50,000 เครื่อง วงเงิน 2,247 ล้านบาท และสนับสนุนให้ปรับเปลี่ยนมาใช้โครงการติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) ให้กับอาคารภาครัฐเพื่อเป็นการประหยัดพลังงาน ทั้งเป็นการส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีพลังงานทดแทนที่มีความเหมาะสมในการสนับสนุน เพื่อประหยัดพลังงานไฟฟ้า ลดค่าใช้จ่าย และลดการนำเข้าเชื้อเพลิงในการผลิตไฟฟ้าได้ใช้งบประมาณ 1,187 ล้านบาทต่อปี เป็นไปตามนโยบายการส่งเสริมการผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ตามแผนพัฒนาพลังงานทดแทนและพลังงานทางเลือกให้ได้ 25% ภายในระยะเวลา 10 ปี (2555-2564)
โดยจะติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาอาคารศาลากลางจังหวัดเขตรับผิดชอบของการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) 74 จังหวัด และหลังคาอาคารของรัฐในเขตจังหวัดความรับผิดชอบของการไฟฟ้าส่วน ภูมิภาค (กฟภ.) 74 จังหวัด รวม 25 เมกะวัตต์
กระทรวงพลังงานได้กำหนดกลยุทธ์การดำเนินการส่งเสริมระบบขนาดเล็กที่สามารถติดตั้งได้ในชุมชนและระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาให้ได้ 1,000 เมกะวัตต์ในระยะเวลา 10 ปีข้างหน้า โดยส่งเสริมให้มีการติดตั้งระบบดังกล่าวในอาคารบ้านเรือน บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม โรงงานอุตสาหกรรม อาคารสำนักงาน และอาคารภาครัฐ 5,298 แห่งทั่วประเทศ โดยมีการใช้พลังงานภาพรวม 673 ล้านหน่วยต่อปี ทำให้ภาครัฐมีค่าใช้จ่ายในส่วนค่าไฟฟ้าในอาคารภาครัฐกว่า 2,500 ล้านบาทต่อปี
ที่ประชุมกองทุนส่งเสริมฯ ยังได้อนุมัติปรับเปลี่ยนหลอดไฟฟ้าของเดิมเป็นหลอดไฟฟ้าประหยัดพลังงานให้กับกระทรวงกลาโหม 400 ล้านบาท อนุมัติโครงการประชาสัมพันธ์ 1,070 ล้านบาท เพื่อรณรงค์การประหยัดพลังงาน ซึ่งกองทุนส่งเสริมอนุรักษ์พลังงานมีงบประมาณ 7,000 ล้านบาท ใช้งบไปแล้ว 3,000 ล้านบาทในปี 2555
"การปรับโครงสร้างราคาพลังงานของประเทศขณะนี้เดินหน้าไปมากพอสมควร ต้องใช้เวลาดำเนินการระยะหนึ่งเพื่อให้โครงสร้างราคาพลังงานมีความสมบูรณ์ และทำในช่วงที่ราคาพลังงานในประเทศมีเสถียรภาพไม่ผันผวนตามการเปลี่ยนแปลงของ เศรษฐกิจโลกและราคาพลังงานโลก"
ขอบคุณข่าวแอร์จาก : นสพ.กรุงเทพธุรกิจ