ความเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้น ของร้านแอร์ เมื่อหน้าร้อนปีมะเส็ง 2556 ที่ผ่านมา
เปิดอ่าน 665
ในร้อนที่ผ่านมาเดือนกุมภาพันธ์-พฤษภาคม ปี 2556 ธุรกิจร้านแอร์ 3-4 เดือนมีความเปลี่ยนแปลงไปจากปีก่อน ๆ ในด้านการดำเนินการที่ตกอยู่ในสถานการณ์วิกฤตด้านแรงงานและค่าจ้างอย่างชนิดที่พิสูจน์ศักยภาพเจ้าของกิจการธุรกิจร้านแอร์กันเลย
โดยภาพรวม การขาดแคลนด้านช่างแอร์ ขาดแคลนอย่างหนัก จนถึงขั้นปิดรับงานด้านบริการไปเลยก็มี เน้นการขายแอร์หรืออะไหล่เป็นหลัก สำหรับงานติดตั้งก็ใช้ช่าง Sub ทั่ว ๆ ไปและประจำเท่าที่ยังมีเอาความแน่นอนไม่ได้ ลูกค้าก็ต้องยอมรับสภาพ ถ้าต้องการความรวดเร็วก็ยิ่งราคาสูง ปีนี้ราคางานค่าแรงสูง ค่าของสูง ร้านค้าขายปลีกขายพร้อมติดตั้ง ขายกำไรน้อยลง หรือแทบจะเท่ากับร้านขายส่งที่มีส่วนต่างไม่เกิน 200-1,000 บาท ทำให้ร้านขายปลีกอยู่ไม่ได้แน่นอนถ้าไม่มีงานซ่อมบำรุงมาซ่อม
ค่าแรงช่างแอร์ปี 56 เดี๋ยวนี้เริ่มแค่ช่างฝึกงานต้องมี 400-500 บาท/วัน หัวหน้าช่างก็ต้องมี 660-1,000 บาท/วัน รายจ่ายด้านแรงงานสูงขึ้นมาก กำไรน้อย การแข่งขันสูง ต่อไปคงมีแต่คนขายแอร์ไม่ติดตั้งหรือถ้าติดตั้งก็ตกลงกันใหม่ว่าขายเครื่อง + ค่าติดตั้งต่างหากไม่มีหลักประกันเหมือนที่ผ่าน ๆ มา การขายแอร์จะขายเฉพาะเครื่อง แยกค่าติดตั้ง ค่าบริการ ค่าประกันบริการ ต้องแยกกันอย่างเห็นได้ชัด หน้าร้อนที่ผ่านมาอุณหภูมิเฉลี่ยสูงกว่า 40 องศา อากาศร้อนมาก ๆ อย่างชนิดทำงานไม่ทัน แอร์ที่ติดตั้งใช้งานอยู่ก็ไม่สามารถทำคามเย็นได้เหมือนเดิม ต้องเปลี่ยนและติดตั้งเพิ่มเติมกันอย่างโกลาหล ยิ่งแอร์ที่มีอายุเกิน 5 ปี ส่วนใหญ่ทำความเย็นไม่ได้ หรือสิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าสูงขึ้นกว่า 30 เปอร์เซ็นต์ขึ้นไป โดยเฉพาะกลางวันที่มีแดดร้อนอย่างมาก
แต่ก่อนการคิดหาขนาดทำความเย็นของเครื่องปรับอากาศในการติดตั้งใช้ 800-1,000 บีทียูต่อตารางเมตร ต้องปรับเป็น 1,000-1,200 บีทียูต่อตารางเมตรสำหรับห้องทั่ว ๆ ไป (รับแขก ทำงาน) ความเปลี่ยนแปลงที่ไม่สามารถแก้ไขได้ก็คือการขาดแคลนช่างปัจจุบันคนรุ่นใหม่ไม่สู้งานหนัก งานแอร์นอกจากหนักแล้วต้องมีความรับผิดชอบสูง อย่างที่รู้ ๆ ว่าช่างแอร์ต้องมีพื้นฐานหลาย ๆ ช่าง มีช่างไฟฟ้า ช่างเชื่อม ช่างปูน ช่างไม้ ช่างประปา ช่างเหล็ก ช่างสี ช่างดักส์ (ท่อส่งลม) ฯลฯ จะเห็นว่าในการติดตั้งเครื่องปรับอากาศจะต้องมีการสัมผัสกับวัสดุอุปกรณ์ในสายงานช่างดังกล่าว ทุก ๆ เรื่อง การจะฝึกงานคนสมัยนี้ให้มีความอดทนพยายามให้ทำงานในลักษณะเรียนรู้ไป ฝึกทำงานไปโดยออกไปทำงานช่วยจับ-ขน-ยก-เครื่องปรับอากาศ-เครื่องมือ-อุปกรณ์ พร้อม ๆ กับช่างที่ออกไปทำงานจริง ๆ หลังจากมีการเรียนภาคทฤษฎีเบื้องต้น รู้จักเครื่องมืออุปกรณ์แล้ว แค่ฝึกงานก็ได้เบี้ยเลี้ยงวันละ 300 บาท ก็ยังหายากเต็มที ใครสนใจก็ยินดีนะครับติดต่อกลับมาที่สมาคมผู้ค้าเครื่องปรับอากาศไทยได้พร้อมจะเปิดอบรมให้ท่าน และส่งต่อให้ร้านค้าสมาชิกทั่วประเทศ
วิกฤตดังกล่าวยอมรับว่าทางสมาคมผู้ค้าเครื่องปรับอากาศไทยได้พยายามหาทางแก้ไข ไม่ว่าเปิดรับสมัครผู้สนใจเข้าฝึกอบรมเป็นช่างเครื่องปรับอากาศอีกทั้งติดต่อทางกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน กรมจัดหางาน กรมประชาสงเคราะห์ แม้กระทั่งกรมราชทัณฑ์ เพื่อหาช่างเข้ามาป้อนให้สมาชิกร้านค้าของสมาคมผู้ค้าเครื่องปรับอากาศไทย นับวันก็ยิ่งรุนแรงขึ้น แต่ทุกวิกฤตย่อมมีโอกาสเสมอ ที่เห็นชัดเจนคือค่าตัวช่างแอร์สูงขึ้นกว่า 50-100 เปอร์เซ็นต์ ในทุกวันนี้แตกต่างจากปีก่อน ทำให้อาจมีคนสนใจงานด้านนี้เพิ่มขึ้นบ้าง เพราะเป็นอาชีพที่มีโอกาสเป็นเจ้าของธุรกิจ มีความเป็นอิสระเสรีภาพ และต่อ ๆ ไปค่าแรงช่างแอร์ก็สูงกว่านี้ เพราะสภาพอากาศที่ร้อนเป็นแรงผลักดัน ทางผู้ผลิตก็มีปัญหาแรงงานเช่นเดียวกัน ก็พยายามออกแบบผลิตภัณฑ์ที่มีความสำเร็จสูง มีน้ำยา มีท่อทองแดง มีวาล์วต่อแฟร์ ช่างแทบจะแค่จับยึดอุปกรณ์ ต่อสายไฟ เดินเครื่องปรับอากาศก็ใช้งานได้เลย และยังมีแอร์ตู้ที่เสียบปลั๊กเปิดใช้งานเหมือนพัดลม น่าจะมีอนาคตที่สดในในยามขาดแคลนช่างติดตั้ง ก็คาดหวังจากแรงงานต่างด้าว (AEC ปี 2558) ที่จะมาทดแทน แต่ก็ไม่ง่ายนัก ปัญหาอาจจะมากขึ้นสำหรับด้านงานบริการที่ยังไม่สามารถทำใจได้ในด้านความปลอดภัย จุดเปลี่ยนที่ชัดเจนในธุรกิจเครื่องปรับอากาศอย่างมากในปี 2556 สรุปได้ดังนี้
- วิกฤตขาดแคลนช่างเครื่องปรับอากาศ ค่าตัวช่างเครื่องปรับอากาศสูงขึ้นมาก
- ร้านค้าขายปลีกเครื่องปรับอากาศ พร้อมติดตั้งเปลี่ยนเป็นขายส่ง แยกค่าเครื่อง ค่าติดตั้ง
- ค่าดำเนินการของร้านขายปลีกไม่สามารถดำเนินธุรกิจได้อย่างเดิม ถ้าหวังเพียงกำไรค่าเครื่องปรับอากาศ
- เครื่องปรับอากาศมีแนวโน้มเป็นสำเร็จรูปมากขึ้น อาศัยช่างติดตั้งน้อยที่สุด
- มาตรฐานฝีมือช่างเครื่องปรับอากาศนับวันโอกาสเกิดน้อย ยกเว้นบังคับใช้ พ.ร.บ.