ข่าว: โฆษณาแอร์ก่อให้เกิด ความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้า
เปิดอ่าน 2,406
สำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค ได้ตรวจพบการโฆษณาเครื่องปรับ อากาศยี่ห้อโตชิบา ไดเซไก ของบริษัท แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด ทางหนังสือ พิมพ์กรุงเทพธุรกิจ ใช้ข้อความว่า
“เครื่องปรับอากาศโตชิบา ไดเซไก รวม 4 สุดยอดเทคโนโลยีแห่งความเย็น และระบบฟอกอากาศไว้ในหนึ่งเดียว”
1. Plasma Air Purifier ระบบฟอกอากาศพลาสม่า 2 ขั้นตอน จะดูดจับและทำลาย เชื้อไวรัสแบคทีเรีย ฝุ่นผง ไรฝุ่น สารก่อภูมิแพ้ได้อย่างมีประสิทธิภาพเป็น 2 เท่า ของระบบพลาสม่าทั่วไป ซึ่งจะทำลายเชื้อโรคในอากาศโดยการอัดประจุบวกเข้าไป ในทุกอณูของเชื้อโรค สิ่งสกปรก แม้กระทั่งควันบุหรี่ จากนั้นจะทำการดูดซับด้วย แผงไฟฟ้าประจุบวกและประจุลบอีกขั้น ระบบอัดประจุภายในตัวเครื่องแบบ พลาสม่า ปลอดภัย ไม่เป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัย จึงมั่นใจได้ว่าระบบฟอกอากาศ ของเครื่องปรับอากาศ โตชิบา ไดเซไก ทำงานเต็มประสิทธิภาพอย่างแท้จริงเพื่ออากาศที่สดชื่นดุจธรรมชาติ
2. Zeolite-plus Deodorizer ระบบกรองกลิ่นอีก ขั้นตอนเพื่อประสิทธิภาพสูงสุด โดยแผ่นกรองอากาศประสิทธิภาพสูงกำจัดกลิ่นบุหรี่ และกลิ่นที่ไม่พึงประสงค์ เชื้อโรคต่างๆ ฝุ่นละออง หรือแม้แต่อณูสกปรกใน อากาศที่มีขนาดเล็กถึง 0.0001 ไมครอน
3. Air lonizer ทำหน้าที่ปล่อย และ กระจายประจุลบปริมาณถึง 35,000 ไอออนต่อลูกบาศก์เซนติเมตรเข้าไปในอากาศ ประจุลบสามารถพบได้ตามธรรมชาติ และช่วยลดความเครียดมีความปลอดภัยทำให้อากาศบริสุทธิ์ ช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นผ่อนคลายเหมือนอยู่ท่ามกลาง ธรรมชาติอย่างแท้จริง
4. Self Cleaning ระบบทำความสะอาดอัตโนมัติ วิวัฒนาการ ใหม่ล่าสุดจาก โตชิบา เพื่อขจัดความชื้นตกค้างภายในเครื่อง อันเป็นสาเหตุของกลิ่นอับชื้น และยับยั้งการเกิดเชื้อรา เชื้อแบคทีเรีย และกลิ่นอับชื้นต่างๆ เพื่ออากาศที่บริสุทธิ์สดชื่นและยืดอายุการใช้งานของตัวเครื่อง
คณะอนุกรรมการติดตามสอดส่องและวินิจฉัยการโฆษณา ได้พิจารณาการโฆษณาข้างต้น โดยเชิญผู้แทนบริษัทเข้าร่วมชี้แจงและตอบข้อซักถามต่อคณะอนุกรรมการ ซึ่งผู้รับมอบอำนาจจากบริษัทได้ชี้แจงข้อเท็จจริงสรุปได้ ดังนี้ (1) ระบบพลาสม่าของบริษัท มี 2 ขั้นตอน ขั้นแรกมีขดลวดที่มีประจุไฟฟ้า 4,400 โวลต์วิ่งอยู่ เมื่อเชื้อโรคถูกดูดเข้ามาจะมีการอัดประจุบวกวิ่งผ่านเข้าประจุลบก็จะดักจับหรือถูกดูดเข้าหากันตามหลักไฟฟ้าสถิต ถ้าเป็นระบบพลาสม่าทั่วไปจะสิ้นสุดการทำงานที่ขั้นตอนนี้ แต่เครื่องปรับอากาศโตชิบา ไดเซไก จะมีอีกขั้นตอน หนึ่ง คือมีแผ่นกรองอากาศที่อยู่ด้านหลังซึ่งมีกระแสไฟฟ้า 3,500 โวลต์วิ่งอยู่ซึ่ง มีสถานะเป็นขั้วบวก เมื่ออนุภาคบวกที่สามารถผ่านขั้นตอนแรกมากระทบจะถูกผลักกลับออกไปตามหลักการไฟฟ้าสถิตไปยังแผ่นกรองอากาศที่มีค่าเป็นศูนย์ หรือ ขั้วลบอีกครั้งหนึ่งโดยไม่ปล่อยออกมาข้างล่าง
ผลจากการทดสอบนี้สามารถดูดจับเชื้อโรคได้ถึง 90% แต่ถ้าเป็นระบบพลาสม่าระบบขั้นตอนเดียวทั่วไปจะดูดจับได้เพียง 40% บริษัทจึงโฆษณาว่ามีประสิทธิภาพเป็น 2 เท่า ของระบบพลาสม่าทั่วไป
ส่วนเชื้อโรคที่ถูกดูดจับติดอยู่กับแผ่นกรองอากาศ เมื่อเชื้อโรคหาอาหารไม่ได้ จะย่อยสลายไปเองหรือจะนำแผ่นกรองอากาศไปล้างน้ำสบู่ก็จะสามารถทำให้เชื้อ โรค เช่น เชื้อไวรัส ประเภทโคโรน่า ตายได้
Zeolite-plus Deodorizer ระบบ กรองกลิ่นมีขั้นตอนการทำงาน 2 ขั้นตอน คือ มีตัวเร่งแสงอุลตร้าไวโอเลต ตัว แยกกลิ่น เชื้อโรค ฝุ่นละอองออกจากน้ำ คาร์บอนไดออกไซด์ และแผ่นตัวเร่งแสงเริ่มแรกกลิ่นจะถูกดูดซับด้วยตัวดูดกลิ่นและจะแยกกลิ่นด้วยตัวเร่งแสงเป็นระยะ ตัวเร่งแสงและตัวดูดซับกลิ่นทำเป็นแผ่นเพื่อให้สามารถแยกกลิ่นได้ยาว นานขึ้น
บริษัททำการทดสอบ Air lonizer ในสภาวะปิด ทำให้สามารถผลิต ไอออนได้ 35,000 ไอออน โดยวัดที่จุดศูนย์กลางของห้องสูงจากพื้นประมาณ 100 ซม. และปริมาณไอออนที่ออกมานี้จะไม่คงสภาพเช่นนี้ตลอดไป จึงควรใช้เครื่องปรับอากาศให้มีขนาดบีทียูที่เหมาะสมกับขนาดของห้องด้วย ซึ่งจะช่วยลดความเครียดทำให้อากาศ บริสุทธิ์และช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นผ่อนคลาย เหมือนอยู่ท่ามกลางธรรมชาติอย่างแท้จริง โดยบริษัทมีผลการทดสอบกับดอกไม้ซึ่งเป็นสิ่งมีชีวิตพบว่าจะอยู่ได้ ยาวนานในสภาพแวดล้อมที่มีประจุลบมากกว่าประจุบวก
ระบบ Self Cleaning หมายถึง แอร์โตชิบามีระบบทำความสะอาดได้ด้วยตนเองโดยเป่าลมออกมาเพื่อไล่ความชื้นมิให้เกิดกลิ่นอับ
คณะอนุกรรมการติดตามสอดส่องและวินิจฉัยการโฆษณา ได้พิจารณาเอกสารการโฆษณาประกอบคำชี้แจงของบริษัท แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด แล้วเห็นว่า ตามคำชี้แจงของบริษัทที่ว่าระบบ Plasma Air Purifier ใช้หลักไฟฟ้า สถิตดูดจับเชื้อโรคให้เกาะติดอยู่กับแผ่นกรองอากาศเมื่อเชื้อโรคหาอาหารไม่ได้จะย่อยสลายไปเอง หรือนำแผ่นกรองอากาศไปล้างน้ำสบู่ก็จะทำให้เชื้อโรค เช่น เชื้อไวรัสประเภทโคโรน่าตายได้นั้น อาจก่อให้เกิดความเข้าใจผิดได้ เพราะไม่เสมอ ไปที่เชื้อโรคเมื่อขาดอาหารจะตายเอง และแผ่นกรองอากาศก็มิได้มีสารที่สามารถ กำจัดเชื้อโรคด้วยตนเองและหากแผ่นกรองอากาศมีอนุภาคเกาะเต็มพื้นที่ เช่น ฝุ่น ไรฝุ่น ก็อาจทำให้เชื้อไวรัสหลุดลอดออกมาได้ โดยไม่ถูกทำลาย นอกจากนี้ เชื้อไวรัสบางชนิดมีเกราะเป็นโปรตีนไม่ละลายน้ำ จึงไม่สามารถฆ่าได้ด้วยการล้าง น้ำหรือน้ำสบู่ รวมทั้งผลทดสอบการกำจัดเชื้อโรค
บริษัททำการทดสอบกับเชื้อไวรัส Influenza เพียงชนิดเดียว แต่เชื้อไวรัสที่ก่อโรคทางเดินหายใจมีหลายชนิด และปรากฏด้วยว่าในการทดลองการฆ่าเชื้อแบคทีเรีย บริษัททำการทดสอบเชื้อแบคทีเรียเพียง 2 ชนิด คือ Staphylococcus aureus และ E.coli ซึ่งเป็นเชื้อที่ก่อโรคทางเดินอาหารไม่ลอยฟุ้งในอากาศ จึงเป็นเชื้อแบคทีเรียที่ไม่อาจใช้เป็นตัวอย่างการทดสอบประสิทธิภาพการฆ่าเชื้อโรคในระบบทางเดินหายใจ ส่วนข้อความที่ว่า Zeolite-plus Deodorizer ระบบกรองกลิ่นประสิทธิภาพสูงขจัดกลิ่นบุหรี่และกลิ่นไม่พึงประสงค์ เชื้อโรคฝุ่น ละอองต่างๆ นั้น เห็นว่าแม้ผลการทดสอบของบริษัทโดยการใช้ราดิต (Radit) ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ตัวเร่งแสงมีลักษณะเป็นแผ่นประกอบด้วยสารไททาเนียมไดออกไซด์จะมีความสามารถในการเร่งแสงและดูดสารที่ส่งกลิ่นได้ระดับหนึ่ง
แต่ในสภาพการใช้งานจริงย่อมไม่ได้ผลตามที่โฆษณาเพราะอาจมีปัญหาในเรื่องระยะทางของแสงที่ทำใช้ทำปฏิกิริยากับผลิตภัณฑ์ตัวเร่งแสงหรือเมื่อเวลาปิด ไฟในห้องแล้วจะทำปฏิกิริยาได้อย่างไร ส่วนการปล่อยปริมาณไอออน เพื่อช่วยให้ร่างกายรู้สึกสดชื่นผ่อนคลายนั้น บริษัทก็ไม่สามารถชี้แจงได้อย่างชัดเจนโดยเฉพาะปริมาณไอออนที่ปล่อยออกมาภายในห้องรวมทั้งระบบ Self Cleaning ที่บริษัทอ้างว่าระบบทำความสะอาดอัตโนมัติก็ไม่ใช่ระบบการทำความสะอาดด้วยตนเอง เป็นเพียงการทำให้อุปกรณ์ภายในเครื่องปรับอากาศไม่ให้เกิดความชื้นตก ค้างเท่านั้น
ดังนั้น คณะอนุกรรมการ จึงเห็นว่าข้อความโฆษณาของบริษัท แคเรียร์ (ประเทศไทย) จำกัด ในข้อ (1) (2) (3) และ (4) เป็นข้อความที่จะก่อให้เกิด ความเข้าใจผิดในสาระสำคัญเกี่ยวกับสินค้า ตามมาตรา 22 วรรคสอง (2) แห่ง พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้บริโภค พ.ศ.2522 และจากข้อเท็จจริงเห็นว่า บริษัทมีเจตนาใช้ข้อความที่จะก่อให้เกิดความเข้าใจผิดเช่นว่านั้น จึงเห็นสมควรดำเนิน คดีอาญาแก่บริษัท
คณะกรรมการว่าด้วยการโฆษณา พิจารณาแล้วเห็นชอบตามมติของคณะ อนุกรรมการติดตามสอดส่องและวินิจฉัยการโฆษณา