เครื่องปรับอากาศประหยัดไฟฟ้าเบอร์ 5
เปิดอ่าน 1,548
เนื่องจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) ได้ส่งเสริมให้ประชาชนร่วมใจการประหยัดการใช้พลังงานไฟฟ้าและใช้พลังงานไฟฟ้าอย่างมีประสิทธิภาพเพื่อจุดมุ่งหมายในการลดการใช้พลังงานโดยรวมของประเทศ จึงได้จัดตั้งโครงการ “ประชาชนร่วมใจประหยัดไฟฟ้า” โดยให้ผ้ผู้ผลิตเครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิต หรือนำเข้าอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีประสิทธิภาพสูงสำหรับเครื่องปรับอากาศซึ่งเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการเติบโตสูงและใช้พลังงานไฟฟ้าสูงสุด ทั้งในบ้านพักอาศัยและในภาคธุรกิจ
กฟผ. ได้ขอความร่วมมือกับผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศให้เข้าร่วมโครงการเพื่อกำหนดระดับประสิทธิภาพและพัฒนาเครื่องปรับอากาศเพื่อติดฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพเบอร์ 5 เพื่อติดฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพตามมาตรฐาน สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.) โดยสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์(สฟอ.) เป็นหน่วยงานทดสอบค่าประสิทธิภาพโดยเกณฑ์ที่ใช้กำหนด
ประหยัดไฟเบอร์ 5 หมายถึง ท่านจ่ายค่ากำลังไฟฟ้า 1 หน่วยจะได้ความเย็นไม่น้อยกว่า 10,600 บีทียู (ซึ่งเครื่องปรับอากาศปกติโดยทั่วไปท่านจ่ายค่าไฟฟ้า 1 หน่วย จะได้ความเย็นประมาณ 7,000-8,000 บีทียูเท่านั้น)
จากความสำเร็จในการติดฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพเบอร์ 5 บนตู้เย็นประหยัดไฟฟ้า กฟผ. ได้ใช้วิธีเดียวกันผลักดันให้เกิดเครื่องปรับอากาศประหยัดไฟฟ้า เนื่องจากเครื่องปรับอากาศเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการเติบโตสูงและใช้พลังงานไฟฟ้ามากที่สุดโดยเฉพาะในช่วงฤดูร้อนทั้งในภาคที่อยู่อาศัยและภาคธุรกิจ โดยเริ่มเปิดตัวโครงการฯ เมื่อวันที่ 20 กันยายน 2538 ด้วยความร่วมมือจากบริษัทผู้ผลิตเครื่องปรับอากาศ ในการกำหนดระดับประสิทธิภาพและพัฒนาเครื่องปรับอากาศ เพื่อติดฉลากแสดงระดับประสิทธิภาพเบอร์ 5 โดยสถาบันไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์(สฟอ.) เป็นหน่วยงานทดสอบค่าประสิทธิภาพ
ปี 2548 สำนักงานมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (สมอ.)ได้กำหนดมาตรฐานประสิทธิภาพพลังงานขั้นต่ำ (Minimum EnergyPerformance Standard (MEPS) โดยกำหนดให้เครื่องปรับอากาศสำหรับห้องขนาดไม่เกิน 8,000 และ 12,000 วัตต์ มีอัตราส่วนประสิทธิภาพพลังงานไม่น้อยกว่า 2.82 และ 2.53 (9.6 และ 8.6BTU/hr/W) ตามลำดับมีผลบังคับใช้ตั้งแต่มีนาคม 2548 ดังนั้นเครื่องปรับอากาศในขอบข่ายดังกล่าวจะต้องผ่าน มอก. 2134-2545จึงจะสามารถผลิตและนำเข้าเพื่อจำหน่ายภายในประเทศได้ ดังนั้นเพื่อให้เกิดการพัฒนาและประหยัดพลังงานเพิ่มขึ้น กฟผ. จึงได้ปรับเกณฑ์ประสิทธิภาพเบอร์ 5 จากเดิม ค่าประสิทธิภาพพลังงาน EER10.6 เป็น EER 11 ซึ่งสามารถลดการใช้ไฟฟ้าได้ประมาณร้อยละ 5โดยเริ่มดำเนินการตั้งแต่ มกราคม 2549 เป็นต้นมา
(ประสิทธิภาพ Energy Efficiency Ratio - EER)
เกณฑ์ระดับประสิทธิภาพพลังงาน (EER)
เครื่องปรับอากาศประหยัดไฟเบอร์ 5
เครื่องปรับอากาศเบอร์ 5 คุ้มค่ากว่า