ปัจจุบันเครื่องปรับอากาศนับเป็นเครื่องอำนวยความสะดวกที่มีความจำเป็นสำหรับผู้คนที่พักอาศัยในอาคาร ไม่ว่าจะเป็นตามสำนักงาน โรงแรม หรือโรงพยาบาล แต่จะมีใครบ้างที่ทราบว่าในเครื่องปรับอากาศมีเชื้อโรคที่แอบแฝงอยู่และก่อให้เกิดภัยเงียบกับสุขภาพผู้คน


เชื้อโรคดังกล่าวคือ
เชื้อแบคทีเรียที่มีชื่อว่า ลิจิโอเนลลา (Legionella spp.) ซึ่งมีแหล่งอาศัยอยู่ในสิ่งแวดล้อมที่มีความชื้นสูงและเจริญเติบโตได้ดีในน้ำที่มีอุณหภูมิระหว่าง 25-50 องศาเซลเซียส พบได้ตามแหล่งน้ำธรรมชาติทั่วไป และแหล่งน้ำที่มนุษย์สร้างขึ้น เช่น หอผึ่งเย็นระบายความร้อนระบบ แอร์รวม ฝักบัว ก๊อกน้ำ ถังน้ำระบบทำน้ำร้อน เครื่องควบแน่น และน้ำพุเป็นต้นเชื้อชนิดนี้ก่อให้เกิดโรคลีเจียนเนลโลซีส ซึ่งเป็นกลุ่มโรคที่ทำให้ปอดอักเสบ ถ้าผู้ที่ได้รับเชื้อนี้ขณะที่มีร่างกายแข็งแรงจะไม่แสดงอาการใดๆ แต่สำหรับผู้ที่มีร่างกายอ่อนแอจะแสดงอาการอย่างใดอย่างหนึ่งใน 2 ลักษณะคือ ลักษณะแรกเรียกว่า ไข้ปอนติแอค (Pontiac fever) มีอาการคล้ายไข้หวัดใหญ่ ตัวสั่น มีไข้ ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ อาการไม่รุนแรง สามารถหายได้ภายในเวลา 2-5 วัน ลักษณะที่ 2 เรียกว่า โรคลีเจียนแนร์ (Legionnaires' disease) ผู้ป่วยมีไข้สูง ไอ หนาวสั่นปวดศีรษะ ปวดกล้ามเนื้อ อ่อนเพลีย มีอาการติดเชื้อเกิดภาวะปอดอักเสบ ถุงลมถูกทำลาย และอาจรุนแรงถึงเสียชีวิตได้ นอกจากนี้ผู้ป่วยบางรายอาจมีอาการของระบบประสาท อุจจาระร่วงเกิดการติดเชื้อในอวัยวะต่างๆ เช่น เยื่อหุ้มหัวใจอักเสบ ผนังด้านในของหัวใจอักเสบ ไซนัสอักเสบ สมองอักเสบ ไตอักเสบหรือเกิดอาการชอ็ คได้ กลุ่มคนที่มคี วามเสี่ยงต่อการติดเชื้อลิจิโอเนลลา ได้แก่ บุคคลที่ได้รับการปลูกถ่ายอวัยวะ เช่น ตับ หัวใจ ผู้สูงอายุ ผู้ที่ดื่มเหล้าหรือสูบบุหรี่จัด ผู้ที่มีภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น ผู้ป่วยมะเร็ง เอดส์ เป็นต้น และผู้ที่ได้รับการรักษาด้วยยาบางชนิด

จากการศึกษาของสำนักอนามัยสิ่งแวดล้อมในปี 2542-2543 โดยเก็บตัวอย่างน้ำจากหอหล่อเย็น ถาดรองน้ำจากเครื่องปรับอากาศ ถังพักน้ำ ก๊อกน้ำ และฝักบัวอาบน้ำในโรงแรมโรงพยาบาล และสำนักงานมาตรวจจำนวน 112 ตัวอย่าง ผลการตรวจพบเชื้อลิจิโอเนลลา 44 ตัวอย่าง หรือร้อยละ 39

กรมอนามัย กองควบคุมโรค ซึ่งมีหน้าที่เกี่ยวข้องโดยตรงต่อการดูแลสุขภาพอนามัยของประชาชน ได้ให้ข้อแนะนำแนวทางในการควบคุมและป้องกันการระบาดของโรคลีเจียนแนร์สำหรับโรงแรม สำนักงาน หรือโรงงานที่มีการติดตั้งเครื่องปรับอากาศ ดังนี้
- ออกแบบวัสดุที่ใช้ก่อสร้างต้องไม่สึกกร่อนง่าย ทำความสะอาดได้ง่าย มีแผงดักฝอยละออง มีรั้วหรือกำแพงล้อมรอบ มีอ่างรองรับน้ำในหอหล่อเย็น
- ลักษณะสถานที่ติดตั้ง ต้องอยู่ห่างจากทางลมเข้า เพื่อระบายและหมุนเวียนอากาศในอาคาร บริเวณที่มีคนอาศัย และไม่ตั้งอยู่ทิศทางลมจะพัดพาละอองน้ำไปสู่คน
- บำรุงรักษา ดูแลระบบหล่อเย็นอยู่เป็นประจำ
- ทำความสะอาดต้องขัดล้างกำจัดตะกอน ตะกรัน และการทำลายเชื้อต้องกระทำตามความจำเป็นอย่างน้อย 1 ครั้งใน 6 เดือน
- บำบัดคุณภาพน้ำ เพื่อควบคุมเชื้อลีจิโอเนลลาต้องป้องกันและลดปริมาณตะกรันตะกอน แบคทีเรียและจุลินทรีย์อื่นๆ โดยเติมสารฆ่าเชื้อ
- ใช้สารฆ่าเชื้อในหอหล่อเย็นต้องใช้อย่างน้อย 2 ชนิด โดยใส่สลับกันสัปดาห์ละครั้งเพื่อป้องกันเชื้อจุลินทรีย์ดื้อสารเคมี
- จัดทำแผนปฏิบัติการควบคุมโรคเมื่อเกิดการระบาดของโรคลีเจียนแนร์ เจ้าของอาคารหรือผู้ได้รับใบอนุญาตจัดตั้งโรงแรมต้องทำการแจ้งต่อเจ้าพนักงานท้องถิ่นหรือเจ้าพนักงานสาธารณสุขทราบทันที เพื่อทำการสอบสวนทางระบาดวิทยา
สำนักพัฒนาศักยภาพนักวิทยาศาสตร์ห้องปฏิบัติการ ในฐานะที่มีภารกิจในการพัฒนาบุคลากรที่ปฏิบัติงานในห้องปฏิบัติการ มีความมุ่งมั่นที่จะพัฒนาหลักสูตรให้ครอบคลุมทุกด้านรวมทั้งจุลชีววิทยาด้านสิ่งแวดล้อม เพื่อเป็นการเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับเทคนิคการวิเคราะห์เชื้อดังกล่าวและยังเป็นการเสริมสร้างศักยภาพของนักวิทยาศาสตร์ที่ปฏิบัติงานด้านจุลชีววิทยาให้มีประสิทธิภาพในการวิเคราะห์ทดสอบสูงขึ้น