ระวังอันตราย ที่เกิดจากสารทำความเย็น (น้ำยาแอร์)
เปิดอ่าน 22,606
ข้อควรระวังในการปฏิบัติงานที่เกี่ยวข้องกับสารทำความเย็นมีดังนี้
1. บริเวณที่ปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับสารทำความเย็นจะต้องมีอากาศถ่ายเทได้ดี เพราะอาจมีสารทำความเย็นรั่วออกจากระบบ และเนื่องจากคุณสมบัติที่หนักกว่าอากาศ ทำให้สารทำความเย็นกระจายไปแทนที่อากาศในห้อง ทำให้เกิดการขาดออกซิเจนเป็นอันตรายต่อผู้ปฏิบัติงานในบริเวณนั้น
2. ปล่อยสารทำความเย็นออกจากระบบให้หมด แล้วปล่อยไนโตรเจนหรือคาร์บอนไดออกไซด์ผ่านก่อนใช้แก๊สเชื่อมหรือตัดอุปกรณ์ในระบบ ห้ามเชื่อมอุดรอยรั่วขณะที่ระบบยังมีสารทำความเย็นอยู่เนื่องจากเมื่อสารทำความเย็นได้รับความร้อนจะมีอันตราการขยายตัวสูงมาก อาจทำให้เกิดการระเบิดอย่างรุนแรงหรือเมื่อสารทำความเย็นสัมผัสกับเปลวไฟขณะเชื่อมจะเกิดการเผาไหม้ได้แก๊สพิษที่ไม่มีสีแต่มีกลิ่นฉุนเป็นอันตรายต่อร่างกาย
3. สวมถุงมือและใส่แว่นตาเมื่อปฏิบัติงานเกี่ยวข้องกับสารทำความเย็น เนื่องจากสารทำความเย็นทั่วไปมีจุดเดือดต่ำมาก เช่น R-22 ภายใต้ความดันบรรยากาศจะมีจุดเดือดประมาณ -41oF (-41oC) ดังนั้นถ้าสารทำความเย็นเหลวจากระบบหรือในถังรั่วออกสู่บรรยากาศและสัมผัสกับผิวหนังเหนือดวงตา จะทำให้เกิดการเปลี่ยนสถานะเป็นไออย่างรุนแรง เกิดความเย็นจัดทำให้เกิดการบาดเจ็บเนื่องจากผิวหนังหรือดวงตาถูกลดอุณหภูมิอย่างรวดเร็วเกิดน้ำแข็งจับบริเวณนั้น เป็นการบาดเจ็บเนื่องจากถูกความเย็นจัด (frostbite) ซึ่งจะเกิดอาการเจ็บปวดคล้ายถูกไอน้ำหรือน้ำร้อนลวก ซึ่งถ้าเกิดเหตุดังกล่าวให้รีบแก้ไขโดยการใช้น้ำจากก๊อกที่สะอาดปล่อยผ่านผิวหนังหรือดวงตาที่ถูกสารทำความเย็น เพื่อปรับอุณหภูมิที่เย็นจัดให้คืนสภาพปกติ
4. สวมถุงมือเมื่อจะปฏิบัติงานกับคอมเพรสเซอร์ชนิดปิดหรือกึ่งปิดที่ได้รับความเสียหายจากมอเตอร์ไหม้ เนื่องจากสารทำความเย็นที่อยู่ในระบบจะเกิดปฏิกิริยากลายเป็นกรดซึ่งจะทำอันตรายกับผิวหนังได้
5. ห้ามใช้ท่อหรือสายยางจุ่มในถังเพื่อดูดสารทำความเย็นจากถัง (siphoning) เพราะอาจจะทำให้สารทำความเย็นเข้าในปากเกิดอันตรายได้
6. ในกรณีมีของเหลวค้างอยู่ในท่อหรือถูกกักเก็บอยู่ในอุปกรณ์ในช่วงที่ระบบมีอุณหภูมิต่ำจะต้องระมัดระวังการเกิดอันตรายเนื่องจาการขยายตัวของสารทำความเย็นเหลว คือหลังจากระบบหยุดสร้างความเย็นบริเวณรอบ ๆ มีอุณหภูมิสูงขึ้น ถ้าไม่มีที่ว่างสำหรับการขยายตัวของสารทำความเย็นเหลว จะทำให้เกิดความดันภายในสูงขึ้นจนเกิดการระเบิดอย่างรุนแรงได้