ดอยอ่างขาง หรือสถานีเกษตรดอยอ่างขาง
เปิดอ่าน 1,200
ดอยอ่างขางหรือสถานีเกษตรดอยอ่างขาง เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่โดดเด่นของจังหวัดเชียงใหม่
ดอยอ่างขางตั้งอยู่ในเขตพื้นที่ตำบลแม่งอน อำเภอฝาง จังหวัดเชียงใหม่ อยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่ไปทางทิศเหนือ 137 กม. แยกซ้ายเข้าไปอีก 25 กม. ดอยอ่างขางเป็นเทือกดอยสูงติดกับสันเขาพรมแดนประเทศพม่า จุดเด่นที่นักท่องเที่ยวไปเยือนดอยอ่างขางคือการไปเที่ยวชมดอกไม้เมืองหนาวภายในโครงการหลวงอ่างขาง
ก่อตั้งสถานีเกษตรดอยอ่างขาง
สถานีเกษตรดอยอ่างขางได้รับการจัดตั้งเมื่อปี 2512 ตามแนวพระราชดำริในพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เพื่อวิจัยพืชเมืองหนาวเพื่อส่งเสริมให้ชาวเขาปลูกทดแทนฝิ่นและหยุดการทำลายป่า ดอยอ่างขางมีลักษณะเป็นแอ่งที่ราบในหุบเขาลักษณะเหมือนท้องกะทะหรืออ่าง อยู่ที่ระดับความสูงประมาณ 1,400 เมตร ภายในโครงการมีสถานที่น่าสนใจได้แก่ แปลงทดลองปลูกพืชผลไม้เมืองหนาว ได้แก่ สวนบ๊วย สวนท้อ สตรอว์เบอรี่ กีวี่ พลับ สาลี่ บลูเบอรี่ ภายในโครงการหลวงมีแหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจ ได้แก่ สวนแปดสิบ โรงเรือนไม้ในร่ม โรงเรือนกุหลาบ แปลงผัก ป่าซากุระ ป่าเมเปิล พระตำหนักอ่างขาง และสวนบอนไซ
สวนชนิดต่างๆในดอยอ่างขาง
สวนแปดสิบ
สวนแปดสิบ เป็นสวนดอกไม้เมืองหนาวตั้งอยู่ใจกลางสถานีเกษตร เป็นแหล่งรวบรวมไม้ดอกเมืองหนาวปลูกลงแปลงไว้ให้นักท่องเที่ยวได้ชม และยังมีซากุระแท้ๆ จากญี่ปุ่นให้ชมด้วยซึ่งจะออกดอกสวยงามในช่วงฤดูหนาวของทุกปี ส่วนไม้ดอกเมืองหนาวที่ปลูกลงแปลงมีการปลูกสลับเปลี่ยนพืชพันธุ์เพื่อให้มีดอกสวยงามตลอดทั้งปี
พระตำหนักอ่างขาง
พระตำหนักอ่างขาง เป็นพระตำหนักหลังเล็กๆ ตั้งอยู่ท่ามกลางป่าเมเปิ้ลบนเนินเขาด้านเหนือของสวนแปดสิบ ในช่วงที่เมเปิ้ลเปลี่ยนสีหรือช่วงที่เมเปิ้ลผลัดใบใหม่จะมีความสวยงามมาก สถานที่แห่งนี้นักท่องเที่ยวสามารถขึ้นไปชมได้
สวนบ๊วย
สวนบ๊วย ต้นบ๊วยแต่ละต้นมีขนาดใหญ่ปลูกเป็นทิวแถวสวยงามแผ่กิ่งก้านเหมือนสวนบอนไซขนาดใหญ่ จะออกดอกสวยงามในช่วงเดือนมกราคม มีทั้งสีขาวและสีชมพูซึ่งตั้งอยู่ริมถนนทางออก นักท่องเที่ยวสามารถจอดรถแวะชมได้ ปัจจุบันมีการปรับปรุงภูมิทัศน์ปลูกหญ้าในสวนบ๊วยทำให้เดินเที่ยวชมได้สบายมากขึ้น
โรงเรือนปลูกผัก
โรงเรือนปลูกผัก อยู่ตรงข้ามกับสวนบ๊วย เป็นโรงเรือนหลังสีโป่งแสงขนาดใหญ่เหมือนในภาพด้านล่าง ในโรงเรือนปลูกผักเมืองหนาวจากต่างประเทศ ด้านหลังโรงเรือนที่พื้นที่ทดลองปลูกผักแบบไม่ใช้ดิน ด้านหน้ามีที่จอดรถ นักท่องเที่ยวที่สนใจสามารถเข้าไปชมได้เช่นกัน
แปลงปลูกผักกลางแจ้ง
แปลงปลูกผักกลางแจ้ง แต่ก่อนใช้พื้นที่นี้ปลูกผักกลางแจ้งเพื่อใช้ผลผลิตภายในโครงการและตัดจำหน่ายให้แก่นักท่องเที่ยว ปัจจุบันพื้นที่นี้ปรับปรุงใหม่เปลี่ยนเป็นแปลงปลูกไม้ดอกเมืองหนาวกลางแจ้งที่ปลูกลงแปลงเป็นแถวเป็นแนวเช่นฝิ่นประดับ และอีกหลายชนิดสับเปลี่ยนกันไป อยู่ตรงข้ามกับโรงเรือนวิจัยกุหลาบ
โรงเรือนกุหลาบ
โรงเรือนกุหลาบ เป็นโรงเรือนหลังคาโปร่งใส ภายในทำเป็นแปลงยกร่องปลูกกุหลาบชนิดต่างๆ กุหลาบในโรงเรือนนี้เป็นการปลูกเพื่อการวิจัย นักท่องเที่ยวสามารถเข้าชมได้ แต่โรงเรือนนี้มีการให้น้ำอัตโนมัติด้วยระบบให้น้ำตามเวลาที่ตั้งไว้ หากนักท่องเที่ยวถ่ายภาพก็ควรดูป้ายเวลาการให้น้ำดอกกุหลาบไปด้วย เพื่อป้องกันไม่ให้น้ำเปียกโดนกล้องนั่นเอง
โรงเรือนไม้ในร่ม
โรงเรือนไม้ในร่ม โรงเรือนนี้สวยงามมากมีพรรณไม้นานาชนิดที่ปลูกได้อย่างสวยงามเพราะสามารถควบคุมสภาพน้ำฝนน้ำค้างที่จะทำอันตรายกับต้นไม้ได้ ต้นไม้ภายในจึงสมบูรณ์และสวยงาม แม้กระทั่งกล้วยไม้รองเท้านารีที่ขึ้นชื่อว่าปลูกยาก แต่ที่นี่สามารถปลูกได้อย่างง่ายดาย กระถางหนึ่งออกดอกเป็นร้อย และยังมีกล้วยไม้สวยๆ ให้ได้เลือกชมมากมายหลายสายพันธุ์เลยทีเดียว
การเดินทางไปดอยอ่างขาง
เริ่มเดินทางจากเชียงใหม่ใช้เส้นทางสาย 107 เชียงใหม่-ฝาง เป็นเส้นทางผ่านแม่ริม แม่แตง เชียงดาว ทางแยกเข้าดอยอ่างขางมี 2 เส้นทาง คือ แยกซ้ายที่ กม.79 เป็นเส้นทางใหม่ที่ไม่ชันมากแต่เส้นทางอาจเปลี่ยวไปบ้าง ระยะทางจากแยกทางหลวงสาย 107 ไปจนถึงอ่างขางมีระยะทางประมาณ 50 กม. อีกเส้นทางคือแยกที่ กม.137 มีระยะทางถึงอ่างขางประมาณ 25 กม. เป็นเส้นทางระยะสั้นแต่ชันมากสำหรับผู้ที่ไม่ชำนาญหรือมั่นใจในฝีมือเส้นทางนี้ก็นับว่าค่อนข้างอันตรายสำหรับคุณเช่นกัน แต่คุณสามารถจอดรถไว้ที่วัดที่ปากทาง กม.137 หรือสถานที่รับจอดรถอยู่ตรงข้ามกับปากทางเข้าดอยอ่างขาง ค่ารถจอดคันละ 50 บาท แล้วนั่งรถสองแถวขึ้นไป หรือเหมารถขึ้นไป
การเดินทางโดยรถโดยสารประจำทาง ถ้ามาจากกรุงเทพฯ ให้นั่งรถทัวร์สายกรุงเทพฯ - ท่าตอน ลงที่ปางทางอ่างขาง หากเริ่มจากเชียงใหม่ให้ไปขึ้นรถที่สถานีขนส่งช้างเผือกมีทั้งรถตู้และรถสองแถวบริการ และยังมีรถเมล์โดยสารสายเชียงใหม่-ท่าตอน วิ่งบริการด้วยจากปากทางอ่างขาง กม. 137 มีรถสองแถวโดยสารให้บริการ มีทั้งแบบเหมาคันและแบบรถวินเต็มออก