ฉนวนกันความร้อน มีแบบไหนกันบ้าง แล้วต่างกันอย่างไร
ฉนวนกันความร้อน ที่เป็นที่นิยมในประเทศไทยนั้น มี 4 ประเภท เนื่องด้วยเหตุผลด้านราคาที่ถูก ประสิทธิภาพที่ดี และหาซื้อได้ง่าย จึงมีการทำมาใช้กับบ้านสมัยใหม่ เพราะในปัจจุบันนี้ การติดฉนวนกันความร้อน ทำให้ประหยัดค่าไฟจากการเปิดเครื่องปรับอากาศได้มากมายทีเดียว
ก่อนจะมารู้ความแตกต่างของฉนวนกันความร้อน ทั้ง 4 ชนิดนั้น ผู้อ่านจำเป็นต้องทราบถึง หลักการของความร้อน ว่าเข้าสู่ตัวบ้านได้อย่างไร ซึ่งก็ง่ายๆได้แก่
- ด้วยการนำความร้อน
- ด้วยการพาความร้อน
- ด้วยการแผ่รังสีความร้อน
ซึ่งเป็นหน้าที่ของฉนวนกันความร้อน ที่จะป้องกันการส่งผ่านความร้อนในทั้ง 3 กรณีให้มีประสิทธิภาพดีที่สุด และนอกจากนั้น ฉนวนกันความร้อนแต่ละประเภท ยังมีคุณสมบัติที่ต่างกัน จึงเหมาะแก่การใช้งานในตำแหน่งที่แตกต่างกันของตัวบ้าน ไม่อ้อมค้อม ไปดูคุณสมบัติ และตำแหน่งติดตั้งที่เหมาะสมกันเลย
ประเภท และคุณสมบัติของฉนวนกันความร้อน
1. แผ่นเงาสะท้อนความร้อน
เป็นแผ่นเงาบางๆ มันวาว ตัวอย่างเช่น แผ่นฟลอยส์ ซึ่งมีหน้าที่ในการสะร้อนความร้อน ให้ออกไปจากตัวบ้าน ซึ่งบริเวณที่แนะนำให้ติดก็คือ บริเวณหลังคาบ้าน
2. แผ่นยิปซั่มบอร์ด
เป็นแผ่นขนาดบาง คุณสมบัติในการป้องกันการนำความร้อนได้อย่างดี (อาจติดตั้งแผ่นเงาสะท้อนความร้อนเพิ่มเติมลงไปได้) นิยมติดบริเวณ ฝ้าเพดาน หรือที่กั้นผนัง
3. แผ่นใยแก้วกันความร้อน
ใยแก้วรูพรุนเล็กๆ โปร่งใส ส่วนมากมีสีขาว/เหลือง น้ำหนักเบา มีคุณสมบัติในการป้องกันความร้อนได้ดีมากๆ นิยมใช้มากที่สุด เนื่องจากมีการติดตั้งที่ไม่ยาก ส่วนมากใช้ติดที่ฝ้าเพดาน และบริเวณผนังห้อง
4. ก้อนอิฐกันความร้อน
เป็นอิฐชนิดพิเศษ (อิฐมวลเบา) ซึ่งราคาไม่แพงมาก ต่างจากอิฐมอญตรงที่ มีรูพรุนอยู่ที่ตัวอิฐมาก (ระดับนาโน) ทำให้เป็นตัวกันความร้อนอย่างดี ซึ่งหลายบ้านนิยมสร้างด้วยอิฐกันความร้อนนี้ เพราะสามารถกันความร้อนได้รอบด้าน แต่ก็มีข้อระวังคือ หากไม่ชำนาญการในการฉาบ อาจเกิดปัญหาเรื่องการแตกร้าวภายหลังได้ (ส่วนมากความร้อนจะมาทางหลังคานะ อิฐกันความร้อน อาจไม่ค่อยช่วยอะไร)