ความแตกต่างระหว่าง แอร์บ้าน และ แอร์โรงงาน
เครื่องปรับอากาศ ที่เน้นความใหญ่ แบ่งได้เพียง 2 กลุ่มคือ กลุ่มระดับล่าง - ระดับกลาง จะเรียกว่า แอร์บ้าน ส่วนกลุ่มระดับสูงจะเรียกว่า แอร์โรงงาน อ้าวแล้วเกณฑ์อะไร ที่เป็นตัวแบ่ง ระหว่างระดับบน และระดับล่างหละ ง่ายๆเลยก็คือ ขนาด BTU นั่นเอง
โดยเครื่องปรับอากาศที่ใช้ภายในบ้านนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วน ไม่ก็แอร์แขวน แอร์ติดหน้าต่าง ซึ่มีค่า BTU ประมาณ 6,000 BTU ไปจนถึง 40,000 BTU เลยทีเดียว ซึ่งแอร์ขนาดเหล่านี้ ได้ถูกออกแบบมาให้ใช้กับไฟฟ้าภายในบ้าน และไม่ทำให้เกิดอันตราย หรือพูดง่ายๆก็คือใช้กับไฟ 220 V. นั่นเอง
ส่วนแอร์โรงงานนั้น จะเป็นแอร์ระดับเทพ ส่วนมากใช้ในระบบระบายอากาศในที่ขนาดใหญ่ คำเต็มเรียกเครื่องปรับอากาศเชิงพาณิช เป็นเครื่องปรับอากาศแบบแยกส่วนแทบทั้งหมด โดยมีขนาดตั้งแต่ 40,000 BTU ไปจนถึง 150,000 BTU!! เลยทีเดียว ใช้ไฟพิเศษหน่อยคือ 380 V. พบเห็นได้ใน โรงงาน โรงพยาบาล ห้างสรรพสินค้า ฯลฯ
ยังไม่หมด !! ยังมีโคตรแอร์อีก (มากกว่า 150,000 BTU) หรือศัพท์ที่ใช้คือ เครื่องปรับอากาศแบบชิลเลอร์ อันนี้เป็นพิเศษ ทั้งการติดตั้ง และการออกแบบ ต้องอยู่ในการดูแลของพนักงาน และวิศวกร หรือช่างแอร์ผู้ชำนาญ พบเห็นได้ใน โรงภาพยนตร์ ห้าง โรงแรม สำนักงาน ฯลฯ
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า อุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศนั้น มีงานมาตลอดปี และเติบโตอย่างรวดเร็วในประเทศอุตสาหกรรม มีการใช้พลังงานอย่างมหาศาลในแต่ละวัน และแนวโน้มในอนาคตมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ดังนั้นอยากให้ผู้ใช้งานเครื่องปรับอากาศทุกท่าน ตระหนักถึงคุณค่าของพลังงานและควรใช้พลังงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด เพื่อโลกของเราในอนาคต