ความหมายที่แท้จริง ของคำว่า “การปรับอากาศ”
การปรับอากาศ โดยปกติแล้วหมายถึง การทำอากาศให้เย็นขึ้น แต่จริงๆแล้วนั้น ต้องหมายถึง การทำให้อากาศภายในห้อง หรือภายในบริเวณที่มีการปรับอากาศ มีอุณหภูมิที่พอเหมาะ เพื่อความสบายเวลาอยู่อาศัย โดยการควบคุมความชื้น ควบคุมระบบระบายอากาศ รวมไปถึงควบคุมระบบหมุนเวียบอากาศให้สะอาด ซึ่งทำให้ปัจจัยแบบลบต่อสภาวะอากาศมีพิษน้อยลง เช่น ฝุ่นน้อยลง ควันน้อยลง กลิ่นน้อยลง รวมไปถึงเสียงที่ลดลง
การปรับอากาศ สามารถแบ่งได้ 5 ประเภทดังนี้
1. ปรับและควบคุมอุณหภูมิ : เน้นไปด้านการควบคุมอุณหภูมิภายในพื้นที่ ให้เหมาะที่คนจะอยู่อาศัย ประมาณ 24-26 องศาเซลเซียส เป็นสิ่งที่สำคัญมาก เพราะในประเทศไทย ถือเป็นเมืองร้อน
2. ควบคุมความชื้นสัมพัทธ์ : ความชื้นในอากาศ มีผบต่อคามสะบายกาย ของผู้อยู่อาศัยมาก เพราะจะทำให้ไม่เหนียวตัว และเหงื่อแห้งไว ความชื้นระเหยได้ดีขึ้น ไม่ทำให้ผิวหนังแห้งและแตก ซึ่งโดยหัวไป หน่วยของความชื้นสัมพัทธ์ จะเป็น RH (Relative Humidity) ซึ่งการที่มนุษย์จะอยู่แบบสบายตัว จะต้องมีค่าความชื้นสัมพันธ์ประมาณ 50 % RH
3. ระบายอากาศเสียทิ้ง : อากาศเสีย เป็นความรู้สึกทำให้ผู้ที่อยู่บริเวณนั้น ไม่มความสุข เพราะเกิดกลิ่นอับ ทำให้รู้สึกอึดอัดและไม่สบายตัว ดังนั้นเราจึงต้องคำนึงถึงการระบายอากาศเสียออกจากบริเวณปรับอากาศด้วย
4. การหมุนเวียนของอากาศบริสุทธิ์ : ความเร็วของลมมีผลเป็นอย่างมากในการควบคุมความสบายของรางกายเช่นกัน เช่น ถึงแม้อากาศจะปกติ แต่ลมแรง อาจทำให้ผู้อยู่อาศับรู้สึกหนาวได้ หรือหากไม่มีผมเลย อาจทำให้อากาศไม่กระจายทั่วบริเวณได้
5. การกำจัดฝุ่นละออก ควัน กลิ่น และเสียง : ห้องปรับอากาศนั้น เป็นห้องที่ปิด มิดชิด เพราะฉะนั้น การควบคุมปัจจัยภายในเช่น กลิ่น ควัน เสียง หรือฝุ่นละอองต่างๆ มีความสำคัญมาก
ในหลายโรงงานอุตสาหกรรม จำเป็นต้องใช้ระบบปรับอากาศ เข้ามามีส่วนร่วม เช่น โรงพิมพ์ ที่ต้องควบคุมความชื้นภายในระบบให้พอเหมาะ เพราะอาจกระทบต่อผลงานการพิมพ์ และอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ต่างๆ รวมไปถึงโรงงานผลิตอาหาร และผลิตยาอีกเช่นกัน