ขึ้นเหนือเที่ยวดอยสุเทพ แวะไหว้ครูบาศรีวิชัย
เปิดอ่าน 2,089
ดอยสุเทพจัดเป็นสถานที่ในดวงใจสำหรับนักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างประเทศ
รวมถึงพุทธศาสนิกชนชาวไทยที่มีจิตเลื่อมใสขึ้นมาสักการะบูชาสิ่งศักดิ์สิทธิ์บนดอยสุเทพที่จังหวัดเชียงใหม่แห่งนี้
ดอยสุเทพไม่เพียงแต่เป็นที่ตั้งของวัดพระบรมธาตุดอยสุเทพปูชนียสถานคู่บ้านคู่เมืองเชียงใหม่ และพระตำหนักภูพิงค์ราชนิเวศน์ซึ่งเป็นสถานที่ประทับช่วงฤดูหนาวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวแต่เพียงเท่านั้น ทว่าดอยสูงแห่งนี้ยังสมบูรณ์พร้อมด้วยธรรมชาติอันงดงามหลากหลาย อุดมไปด้วยพืชพรรณและสัตว์ป่า ประกอบกับการเดินทางก็สะดวก เพราะเชิงดอยสุเทพนั้นอยู่ห่างจากตัวเมืองเชียงใหม่เพียง 6 กิโลเมตรเท่านั้น และยังใกล้กับมหาวิทยาลัยเชียงใหม่อีกด้วย อีกทั้งในระหว่างการเดินทางขึ้นสู่ยอดดอยที่มีระยะทางประมาณ 16 กิโลเมตรก็ยังมีสถานที่ท่องเที่ยวโดยรอบต่างๆ ให้ได้เก็บเกี่ยวเที่ยวชมกับบรรยากาศอันสวยงามได้ตลอดทางอีกด้วย
ชื่อเดิมของดอยสุเทพ
ดอยสุเทพ มีชื่อแต่เดิมเรียกว่า “ดอยอ้อยช้าง” สำหรับดอยสุเทพที่เรียกกันในปัจจุบันนี้เป็น ชื่อที่ได้มาจาก “พระฤาษีวาสุเทพ” ซึ่งเคยบำเพ็ญตบะอยู่ที่เขาลูกนี้เมื่อพันกว่าปีมาแล้ว
สถานที่ท่องเที่ยวที่น่าสนใจสำหรับดอยสุเทพเชียงใหม่แห่งนี้
1.อนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัย
‘ครูบาศรีวิชัย’ นักบุญแห่งล้านนาไทยซึ่งเป็นบุคคลแรกที่บุกเบิกสร้างถนนขึ้นไปบนดอยสุเทพ เมื่อปี พ.ศ.2477
เนื่องจากในสมัยก่อนการขึ้นไปนมัสการพระธาตุดอยสุเทพนั้น เป็นเรื่องที่ยากลำบากเหลือเกิน ไม่มีถนนให้เดินทางสะดวกสบายเหมือนปัจจุบัน ทางเดินก็แคบขรุขระ ต้องผ่านป่าเขาลำเนาไพร และต้องปีนเขาซึ่งใช้เวลายาวนานถึง 5 ชั่วโมงกว่า จนมีคำกล่าวขานในสมัยนั้นว่า ถ้าไม่มีพลังบุญและศรัทธาเลื่อมใสจริงๆ ก็จะไม่มีโอกาสได้กราบไหว้พระธาตุดอยสุเทพ
พระครูบาศรีวิชัย ขณะที่จำพรรษาอยู่ที่วัดศรีโสดา เริ่มชักชวนประชาชนสร้างทางจากเชิงดอยถึงวัดพระธาตุดอยสุเทพ รวมระยะทางประมาณ 11 กิโลเมตร โดยใช้เวลาสร้างประมาณ 6 เดือน ต่อมาชาวเชียงใหม่จึงได้สร้างอนุสาวรีย์พระครูบาศรีวิชัยไว้เป็นอนุสรณ์สถานเพื่อสักการบูชาสืบไป ใกล้กับอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยมีน้ำตกห้วยแก้วเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสวยงามซึ่งมีระยะทางห่างออกไปประมาณ 300 เมตรเท่านั้น
2.วัดพระธาตุดอยสุเทพราชวรวิหาร
วัดพระธาตุดอยสุเทพเป็นพระธาตุประจำปีเกิดปีมะแม ถือเป็นสถานที่อันศักดิ์สิทธิ์ที่มีความสำคัญทางศาสนาและประวัติศาสตร์ของนครเชียงใหม่
วัดพระธาตุดอยสุเทพตั้งอยู่บนดอยสุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ สร้างขึ้นเมื่อ พ.ศ.1927 มีบันไดนาคทอดยาวขึ้นไปสู่วัด 306 ขั้นภายในวัดเป็นที่ประดิษฐานขององค์เจดีย์ ทรงมอญ ที่ใต้ฐานพระเจดีย์มีพระบรมสารีริกธาตุของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธ เจ้าบรรจุอยู่ วัดพระธาตุดอยสุเทพมีชื่อ เต็มว่า “วัดพระบรมธาตุดอยสุเทพวรวิหาร” ซึ่งจัดได้ว่าเป็นปูชนียสถานที่ แสดงออกถึงศิลปกรรมล้านนาไทยที่สำคัญคู่เมืองเชียงใหม่
รอบองค์พระบรมธาตุ ประกอบด้วยสิ่งสำคัญ 5 ประการ ได้แก่
1. ฉัตร 4 มุม ทำด้วยทองเหลือง สร้างโดยพระเจ้ากาวิละ กษัตริย์ผู้ครองนครเชียงใหม่ เมื่อ พ.ศ. 2348 มีความ หมายว่า ฉัตรเป็นสัญลักษณ์ของความร่มเย็น ซึ่งแสดงให้ถึงความสงบร่มเย็นที่ได้รับอิทธิพล มาจากพระพุทธศาสนาที่แผ่ไปในทั้ง 4 ทิศ
2. สัตติบัญชร หรือ รั้วหอก ที่อยู่รอบพระธาตุ ซึ่งมีที่มาจากเหตุการณ์แบ่งพระบรมสารีริกธาตุของโทณพราหมณ์ เมื่อภายหหลังการถวายพระเพลิงพระพุทธสรีระ เนื่องจากเกิดเหตุการณ์แย่งพระบรมสารีริกธาตุของเมืองต่างๆ เพื่อนำไปไว้บูชาประจำเมือง โทณพราหมณ์จึงทำหน้าที่แบ่ง โดยให้ทหารถือหอกรอบล้อมพระบรมสารีริกธาตุไว้ เพื่อป้องกันการแย่งชิง จึงเป็นที่มาของรั้วหอกรอบพระบรมธาตุ
3. หอยอ ลักษณะเหมือนวิหารขนาดเล็ก ประจำอยู่ 4 ด้าน ของพระบรมธาตุ ภายในมีพระพุทธรูปประดิษฐานอยู่มีความหมายถึงการบูชาหรือสรรเสริญคุณของพระพุทธเจ้า (ยอคุณ)
4. หอท้าวโลกบาล ซึ่งเป็นหอยอดแหลมขนาดเล็ก ประจำอยู่ 4 มุมของพระบรมธาตุ หมายถึง ที่ประดิษฐาน ของท้าวโลกบาลทั้ง 4 ซึ่งเป็นเทพที่ปกปักรักษาสิ่งสำคัญต่างๆ 4 ทิศ
5. ไหดอกบัว หรือ ปูรณะฆะฏะ (ปูรณะ แปลว่า เต็ม,สมบูรณ์, ฆฏะ แปลว่า หม้อ) แปลว่า หม้อที่แสดงถึงความ สมบูรณ์ ซึ่งหมายถึงความเจริญรุ่งเรื่องของพระพุทธศาสนาในล้านนาไทย
นอกจากนี้พระธาตุดอยสุเทพยังเป็นจุดชมวิวที่สามารถสัมผัสทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่ได้เกือบทั้งเมืองโดยเฉพาะในยามค่ำคืนที่จะมองเห็นแสงไฟระยิบระยับนับหมื่นดวง เป็นภาพที่สวยงามจับตาอย่างยิ่ง และยังเป็นจุดที่นักท่องเที่ยวมักแวะเวียนเข้ามาถ่ายรูปคู่กับทิวทัศน์เมืองเชียงใหม่เพื่อเก็บเป็นความทรงจำอันน่าประทับใจ ไม่ว่าจะเป็นช่วงเช้า สาย บ่าย เย็น หรือกลางคืน เรียกได้ว่าพระธาตุดอยสุเทพแห่งนี้สร้างความประทับใจแก่นักท่องเที่ยวไม่น้อยเลยทีเดียว