การใช้และดูแลรักษาเครื่องปรับอากาศ
เปิดอ่าน 590
เคล็ดลับการใช้งานเครื่องปรับอากาศให้ประหยัด
ในยุค สมัยที่อะไรๆก็แพงไปหมด ไม่ว่าจะเป็นข้าวยาปลาปิ้ง ของใช้ต่างๆ ไปจนถึงพลังงานเช่น น้ำมัน ค่าน้ำ ค่าไฟ ฯลฯ เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายในครอบครัวของคุณ และช่วยชาติประหยัดพลังงาน เรามีเคล็ดลับดีๆในการใช้งานเครื่องปรับอากาศอย่างถูกต้อง ซึ่งช่วยให้เครื่องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัดค่าไฟฟ้า และดูแลรักษาให้อยู่ทนนานโดยมีข้อควรปฏิบัติดังนี้
1. การเลือกเครื่องปรับอากาศที่เหมาะสม
เลือก เครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพสูง คือให้ความเย็นมากแต่กินไฟน้อย โดยดูที่การกินไฟฟ้าเป็นวัตต์ หรือแอมป์โดยควรเลือกที่มีค่าน้อย หรือดูจากค่า COP หรือ EER (Energy Efficiency Ratio) ซึ่งค่ายิ่งสูงยิ่งดี
2. ใช้เครื่องปรับอากาศให้ถูกต้อง
- ตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสมไม่เย็นจัดจนเกินไป โดยปกติห้องนอนควรตั้งที่ 26 °C เพราะขณะนอนหลับ ร่างกายไม่ได้เคลื่อนไหวมาก แต่ห้องที่ทำกิจกรรมเยอะ เช่น ห้องรับแขก ห้องนั่งเล่น และห้องอาหาร ตั้งไว้ประมาณ 24 °C
- ควรติดตั้งเทอร์โมสตัทให้ใกล้กับคอยล์ของอีวาพอเรเตอร์ในตำแหน่งลมกลับเข้าเครื่อง เพื่อทำให้การตัดต่อเป็นไปอย่างถูกต้อง
- เริ่มต้นเปิดเครื่องควรปรับระดับความเร็วพัดลมที่ความเร็วสูง (Hi) ก่อนเพราะจะทำให้เย็นเร็ว พอเย็นได้ที่แล้วค่อยปรับลดไปเป็นลมต่ำ (Low)
- อย่านำสิ่งของไปกีดขวางทางลมเข้าและลมออกของคอนเดนซิ่งยูนิตจะทำให้เครื่อง ระบายความร้อนไม่ออก รวมถึงไม่ควรวางขวางหน้าเครื่องเป่าลมเย็นด้วย เพราะเครื่องต้องทำงานหนักมากขึ้น
- ปิดเครื่องทุกครั้งหลังใช้งาน หากสามารถทราบเวลาที่แน่นอน ควรตั้งเวลาการทำงานของตัวเครื่องไว้ล่วงหน้า เพื่อให้เครื่องหยุดเองโดยอัตโนมัติ
3. ลดความร้อน/ความชื้นจากภายนอกและภายในห้อง
- เปิด หลอดไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ ภายในห้องเฉพาะเท่าที่จำเป็นต่อการใช้งานเท่านั้น และปิดทุกครั้งเมื่อใช้งานเสร็จ เพราะหลอดไฟและอุปกรณ์ไฟฟ้าบางชนิด จะมีความร้อนออกมาขณะเปิดใช้งาน ทำให้อุณหภูมิในห้องสูงขึ้น
- อุปกรณ์ ที่ให้ความร้อนมากควรใช้นอกห้อง เช่น เตารีด เครื่องปิ้งขนมปัง หรือกาต้มน้ำ แต่ถ้าจำเป็นต้องใช้ให้ติดตั้งฝาครอบระบายอากาศสำหรับเครื่องหุงต้มทุกชนิด
- ในช่วงเวลาที่ไม่ใช้ห้องหรือก่อนเปิดเครื่องปรับอากาศสัก 2 ชั่วโมง ควรเปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้เพื่อให้อากาศบริสุทธิ์ภายนอกเข้ามาแทนที่อากาศ ในห้อง จะช่วยลดกลิ่นต่างๆ โดยไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศซื่งจะทำให้เครื่องปรับอากาศทำงานหนัก ขึ้น
- ควรปิดประตูหน้าต่างให้สนิทขณะใช้งานเครื่องปรับอากาศ เพื่อป้องกันมิให้ อากาศร้อนขื้นจากภายนอกเข้ามา อันจะทำให้เครื่องต้องทำงานมากขึ้น
- ไม่ควรปลูกต้นไม้ หรือตากผ้าภายในห้องที่มีเครื่องปรับอากาศเพราะความชื้นจากสิ่งเหล่านี้จะทำให้เครื่องต้องทำงานหนักขึ้น
4. ใส่ฉนวนกันความร้อนที่ตัวบ้าน...วิธี นี้อาจต้องลงทุนซักหน่อย โดยติดฉนวนที่เพดาน ติดตั้งแผ่นสะท้อนความร้อนจากแสงอาทิตย์ที่หลังคาของบ้าน หรืออาจติดตั้งกระจก 2 ชั้นเพื่อลดความร้อนจากแสงอาทิตย์ ซึ่งถึงแม้ว่าจะมีค่าใช้จ่ายสูง แต่ค่อนข้างมีประโยชน์ในระยะยาว
5. บำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศสม่ำเสมอ
- หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศทุก ๆ 2 สัปดาห์ เพื่อให้เครื่องสามารถจ่ายความเย็นได้เต็มที่ตลอดเวลา
- หมั่นทำความสะอาดแผงท่อทำความเย็นด้วยแปรงนิ่ม ๆ และน้ำผสมสบู่เหลว อย่างอ่อนทุก 6 เดือน
- ทำความสะอาดพัดลมส่งลมเย็นด้วยแปรงขนาดเล็ก เพื่อขจัดฝุ่นละอองที่จับกันเป็นแผ่นแข็งและติดกันอยู่ตามซี่ใบพัดทุก 6 เดือน จะทำให้พัดลมส่งลมได้เต็มที่
- ทำความสะอาดแผงท่อระบายความร้อน โดยการใช้เแปรงนิ่ม ๆ และน้ำฉีด ล้างทุก ๆ 6 เดือน เพื่อให้เครื่องสามารถนำความร้อนภายในห้องออกไปทิ้งให้แก่อากาศภายนอกได้ อย่างมีประสิทธิภาพ
- หากปรากฏว่าเครื่องไม่เย็นเพราะสารทำความเย็นรั่วต้องรีบตรวจหารอยรั่วแล้ว ทำการแก้ไขพร้อมเติมให้เต็มโดยเร็ว
- ตรวจสอบฉนวนหุ้มท่อสารทำความเย็นอย่างสม่ำเสมอ อย่าให้เกิดฉีกขาด
- ติดต่อช่างบริการที่เชื่อถือได้เพื่อตรวจสอบเครื่องอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง
ประโยชน์ ของเครื่องปรับอากาศ
นอกจากทำความเย็นแล้วยังช่วยทำให้อากาศสะอาด และควบคุมความชื้น
นอกจากทำความเย็นแล้วยังช่วยทำให้อากาศสะอาด และควบคุมความชื้น
ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพของเราด้วย ดังนั้นขั้นตอนตั้งแต่การเลือกซื้อ
การใช้และการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศจึงเป็นสิ่งที่จะละเลยไม่ได้
การใช้และการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศจึงเป็นสิ่งที่จะละเลยไม่ได้
ต้องศึกษาข้อมูลและใช้อย่างถูกต้อง
จึงจะทำให้ใช้เครื่องปรับอากาศอย่างมีประสิทธิภาพและสนองความต้องการของเรา ได้อย่างเต็มที่
จึงจะทำให้ใช้เครื่องปรับอากาศอย่างมีประสิทธิภาพและสนองความต้องการของเรา ได้อย่างเต็มที่