YORK ชี้แจงเรื่อง การเติบโตที่ลดลง ของอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศ
นายอุทัย โลหชิตรานนท์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท จอห์นสัน คอนโทรลส์ อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด ผู้ผลิต นำเข้า และจำหน่ายเครื่องปรับอากาศ ภายใต้แบรนด์ “YORK” เปิดเผยว่า ภาพรวมอุตสาหกรรมเครื่องปรับอากาศในช่วง 1-2 ปีที่ผ่านมา มีการเติบโตที่ลดลงอย่างมาก หรือ คิดเป็นการเติบโตเฉลี่ย 10% ต่อปี จากเดิมที่มีการเติบโตเฉลี่ย 15-20% ต่อปี ซึ่งปัจจุบันตลาดรวมเครื่องปรับอากาศมีมูลค่า 10,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ปัจจัยหลักที่ทำให้มีการเติบโตในอตราที่ลดลง มาจากการที่ผู้บริโภคซื้อเครื่องปรับอากาศใหม่น้อยลง ตามภาพรวมเศรษฐกิจและภาวะทางการเงิน โดยเฉพาะจากนโยบายรถคันแรกของรัฐบาล ซึ่งจากการเข้าไปสำรวจข้อมูลจากกลุ่มตัวแทนจำหน่ายทั่วประเทศ พบว่า นโยบายดังกล่าวทำให้ยอดขายเครื่องปรับอากาศของแต่ละรายลดลง 6-8% บางรายยอดขายลดลงถึง 20%
สำหรับในส่วนของบริษัทเองนั้น ได้วางนโยบายในการขยายตลาดไปสู่กลุ่มผู้บริโภคที่เป็น บริษัทหรือสำนักงาน มากกว่ากลุมลูกค้าทั่วไป ผ่านการออกสินค้ารุ่นใหม่ “YES Series” ขนาด มากกว่า 25,000 BTU ที่จับลูกค้าในกลุ่มบริษัท โรงแรม และโรงพยาบาล ทั้งนี้บริษัทได้เล็งเห็นว่า หลังจากนี้จะมีการเข้ามาลงทุนมากขึ้น ทั้งจากกลุ่มบริษัทต่างชาติ และการเข้ามาลงทุนในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์
นายอุทัย กล่าวว่า บริษัทได้วางงบลงทุนไว้ที่ประมาณ 200 ล้านบาท ในการขยายกำลังการผลิตเพิ่มขึ้น 2 เท่า ในจีน เพื่อรองรับการขยายตลาดไปในภูมิภาคเอเชีย ทั้งในจีน ที่มีกำลังซื้อสูง และไทย รวมถึงอินโดเนเชีย ซึ่งเบื้องต้นในสิ้นปี 2556 นี้ในโรงงานดังกล่าวจะเริ่มเดินเครื่องการผลิตในส่วน (เฟส) ที่1 ในส่วนของห้อง LEB และคาดว่าใน 2-3 ปี จะเดินเครื่องการผลิตได้ครบ 100%
นอกจากนี้บริษัทมีแผนการสร้างการรับรู้ของแบรนด์มากขึ้น โดยในปี 2556 จะใช้งบกว่า 30 ล้านบาท สำหรับการทำการตลาดในไทย ซึ่งป็นการใช้งบที่เพิ่มขึ้น 30% จากปี 2555 โดยบริษัทตั้งเป้าหมายการเติบโตในกลุ่มสินค้ารุ่นใหม่ YES Seriesไว้ที่ 10-15% และจะส่งผลให้ภาพรวมของบริษัทเติบโต 25%
นายสมพร จันกรีนภาวงศ์ ผู้จัดการอาวุโสธุรกิจเครื่องปรับอากาศ บริษัท ไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด กล่าวว่า ภาพรวมในปี 2556 นี้ บริษัทพร้อมอย่างเต็มที่ในการบุกตลาดเครื่องปรับอากาศสำหรับอาคาร ด้วย Team & Tool หรือทีมงานมืออาชีพ ที่มีความเชี่ยวชาญและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ความต้องการของกลุ่มองค์กร โดยบริษัทมีทีมงานที่มีประสิทธิภาพ ทั้งทีมออกแบบ วิศวกร ทีมการตลาด และทีมขาย รวมถึงทีมบริการ ที่เตรียมไว้สำหรับการให้บริการลูกค้า
โดยผ่านการออกสินค้าในกลุ่ม “ซัมซุง ดีวีเอ็ม เอส” ซึ่งเป็นระบบปรับอากาศสำหรับอาคารที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถออกแบบการใช้งานที่ปรับได้ตามความต้องการของแต่ละอาคาร เน้นแนวคิด 3 สมาร์ท ประกอบด้วย สมาร์ทเซฟวิ่ง (Smart Saving) สมาร์ทดีไซน์ (Smart Design) และสมาร์ทคอนโทรล (Smart Control) ซึ่งสมาร์ทเซฟวิ่งนั้น บริษัทได้คิดค้นเทคโนโลยีที่ช่วยลดการใช้พลังงาน จะช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าจากระบบอื่นๆมากกว่า 30% ถือเป็นระบบปรับอากาศที่ประหยัดพลังงานที่สุดในขณะนี้ นอกจากนี้ยังประหยัดพื้นที่ในการติดตั้ง รวมถึงเวลาในการติดตั้งด้วย
สำหรับกลยุทธ์การตลาดนั้น จะมุ่งสร้างการรับรู้ รวมถึงการให้ความรู้กับกลุ่มเจ้าของอาคารและกลุ่มผู้พัฒนาอสังหาริมทรัพย์ ถึงข้อดีของระบบปรับอากาศ ซัมซุง ดีวีเอ็ม เอส ที่จะเอื้อประโยชน์ต่อองค์กร นอกจากนี้บริษัทยังมีการตั้งเทรนนิ่ง เซ็นเตอร์ ในการฝึกอบรมทีมงาน เพื่อให้มีความพร้อมอย่างเต็มที่ในการให้บริการลูกค้า
นายอรรจน์ เศรษฐบุตร อุปนายกสมาคมสถาปนิกสยาม ในพระบรมราชูปถัมภ์ กล่าวว่า การลงทุนติดตั้งระบบปรับอากาศในอาคารถือว่าเป็นการลงทุนที่คุ้มค่า เพื่อสภาพแวดล้อมที่ส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของผู้ที่อยู่ในอาคารนั้นๆ อาคารใดหรือบริษัทใดใช้เครื่องปรับอากาศที่มีประสิทธิภาพกว่า ประหยัดพลังงานมากกว่า ก็จะลดต้นทุนได้
ขอบคุณข่าวแอร์จาก : RYT9