เลือกห้องพัดลม หรือเลือกห้องแอร์ ห้องพักแบบไหนเหมาะกับคุณมากกว่ากัน
สภาพอากาศเมืองไทย เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่าอยู่ในโซนร้อนชื้น แต่สภาพอากาศส่วนใหญ่ ไม่ว่าจะหน้าไหนๆ ก็มักจะมีอุณหภูมิที่สูงเป็นปกติมากกว่าอากาศเย็น ไม่เว้นแม้กระทั่งช่วงหน้าหนาว ที่หนาวๆ ร้อนๆ สลับกัน การเลือกใช้เครื่องปรับอากาศจึงมักจะกลายมาเป็นทางเลือกของผู้คนอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ แต่บางบ้านก็ยังสามารถเลือกที่จะอยู่กับพัดลมธรรมดาที่ใช้อากาศธรรมชาติช่วยปัดเป่าความร้อน เห็นทีแบบนี้อาจจะเกิดข้อสงสัย ว่าพัดลมจะมาแทนที่เครื่องปรับอากาศได้หรือไม่ เพราะด้วยราคาค่าไฟที่ต่างกันอย่างลิบลับ
แม้เครื่องปรับอากาศจะช่วยอำนวยความสะดวกให้เรารู้สึกเย็นกายมากกว่า แต่เมื่อรอบบิลค่าไฟผ่านเข้ามา อาจจะทำให้รู้สึกหนาวๆ ร้อนๆ แบบบอกไม่ถูก เห็นทีแบบนี้ลองมาเปรียบเทียบว่าด้วย "ความจำเป็น" ระหว่างพัดลมและแอร์ แบบไหนจะตอบโจทย์ความต้องการได้มากกว่า อีกทั้งคนที่เลือกเช่าห้องพัก หากเลือกอะไรที่ไม่หนักหนาสาหัสกับค่าเงินในกระเป๋าตัวเองได้ ก็คงจะดีไม่น้อย
ดูที่หน้าต่างของห้องเป็นหลัก
แม้ว่าคนที่มีเครื่องปรับอากาศอยู่ในห้องพัก จะไม่ได้เปิดทิ้งไว้ตลอด 24 ชั่วโมง ดังนั้น การเปิดรับเอาลมธรรมชาติจากหน้าต่างเข้ามาบ้าง ซึ่งจะช่วยให้ภายในห้องได้มีอากาศถ่ายเท ซึ่งสภาพอากาศรอบนอกก็จะต้องไม่เต็มไปด้วยมลพิษ ฝุ่นละออง และควันจากท่อไอเสียรถยนต์ หากเป็นหน้าต่างห้องที่ติดกับถนน อาจจะถูกยกเว้นไปและเลือกใช้การเปิดเครื่องปรับอากาศจะดีกว่า
การเลือกห้อง โดยเฉพาะห้องเช่า ควรเลือกห้องที่มีสภาพอากาศภายนอกสะอาดมากพอให้เราสามารถเปิดบานหน้าต่างเพื่อรับลมเย็นๆ เข้ามาได้ ก่อนตัดสินใจเลือกห้อง จึงควรทดลองเปิดดูบานหน้าต่างก่อนว่าบริเวณพื้นที่รอบๆ มีสภาพอากาศที่ดีหรือไม่ เปิดแล้วมีลมเย็นพัดผ่านเข้ามาถึงไหม ถ้าหากเปิดแล้วเป็นทิศขวางลม อากาศเข้ามาไม่ถึง แบบนี้ก็เห็นทีจะต้องเลือกเป็นห้องแอร์ ที่ช่วยแก้ปัญหาได้ดีกว่า
สภาพแวดล้อมรอบห้องเป็นอย่างไร ?
หากผู้อยู่อาศัยเป็นคนขี้ร้อน นอนหลับยาก ได้ยินเสียงอะไรนิดหน่อยก็ตื่น ทำให้นอนหลับได้เต็มที่ แต่ต้องมาเช่าห้องอยู่ติดกับริมถนน หรืออยู่ในเมืองใหญ่ที่เหมือนจะตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา ระหว่างห้องพัดลมกับห้องแอร์ แนะนำว่าควรเลือกห้องแอร์เป็นหลักจะดีกว่า เพราะจะช่วยให้สภาพห้องเหมาะกับการพักผ่อน มีการควบคุมความมืดได้ดี และทำให้ห้องเงียบมากขึ้น แบบนี้จะช่วยให้นอนหลับได้เต็มที่มากกว่า
แต่สำหรับใครที่เป็นคนง่ายๆ อยู่ที่ไหนก็สามารถนอนหลับได้แบบไม่สนใจเสียงรบกวน ชอบการอยู่ในพื้นที่ๆ มีผู้คนมากกว่าการอยู่เงียบๆ ที่จะทำให้รู้สึกเหงาและล่ะก็ ห้องพัดลมเปิดรับอากาศธรรมชาติจากนอกหน้าต่าง ก็ช่วยให้นอนหลับได้ดี แถมใครชอบฟังเสียงรถยนต์ที่แล่นไปมายามค่ำคืนด้วยแล้ว แบบนี้ช่วยประหยัดงบไปในตัว
สังเกตองค์ประกอบของห้อง
กรณีที่เลือกหอพักเป็นห้องแอร์ สภาพของห้องจะต้องสามารถเก็บอุณหภูมิได้ดีด้วย ซึ่งจะเป็นตัวช่วยประหยัดค่าไฟได้ดี ให้ลองสังเกตที่หน้าต่าง ประตู ฝ้าเพดาน ว่าดูมิดชิด มีการออกแบบป้องกันไม่ให้แอร์ออกได้ดีหรือไม่ จากนั้นให้ดูที่แอร์ว่าสามารถกระจายความเย็นได้ทั่วถึงทุกมุมห้องหรือเปล่า
ส่วนใครที่เลือกเป็นห้องพัดลม กรณีเป็นห้องพัดลมเพดาน ควรมีความสูงที่ไม่สูงเกินไปหรือต่ำเกินไปจนเสี่ยงที่จะถูกเกี่ยวได้รับอันตราย กรณีเป็นพัดลมแบบติดผนัง ควรตรวจสอบดูด้วยการเปิด สังเกตว่าพัดลมสามารถเป่าลมให้เย็นทั่วห้องได้หรือไม่ หากไม่ได้อาจจำเป็นต้องเลือกพัดลมเสริมมาอีกตัว
นอกจากนี้ อย่าลืมดูตำแหน่งแสงแดดที่ส่องเข้ามา ดูทำเลที่ตั้งของห้องพักว่ามีอากาศถ่ายเทได้ดีมากน้อยแค่ไหน จะโดนความร้อนจากดวงอาทิตย์ช่วงเวลาไหน หากเลือกห้องที่มีทำเลดีๆ ได้ ก็จะช่วยประหยัดค่าไฟ ไม่ว่าจะเป็นห้องแอร์หรือพัดลม การเปิดรับอากาศธรรมชาติข้างนอกเข้ามา แบบนี้ก็จะประหยัดเงินค่าห้องพัก และค่าบำรุงรักษาได้มากมาย