เคล็ดลับประหยัดพลังงาน ลดค่าไฟภายในบ้าน ใครๆ ก็ทำได้ง่ายๆ
ในยุคที่ค่าครองชีพสูงมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นค่ากินค่าอยู่ หรือค่าใช้จ่ายอื่นๆ จนทำให้เหล่ามนุษย์เงินเดือนต้องเร่งทำงานหมุนเงินกันจนท้อใจ รายได้เท่าเดิม แต่เพิ่มเติมเข้ามาคือรายจ่ายที่สูงขึ้น โดยเฉพาะค่าไฟภายในบ้านที่มักจะสูงเป็นเรื่องปกติในช่วงฤดูร้อน ดังนั้นเพื่อเป็นทางออกช่วยประหยัดเงินในกระเป๋า ลดค่าใช้จ่ายในแต่ละวันลง เราสามารถที่จะประหยัดพลังงานภายในบ้านด้วยตัวเองแบบที่ใครก็สามารถทำได้
เพิ่มฉนวนกันความร้อน ลดอุณหภูมิในบ้าน
ตัวฉนวนกันความร้อน ไม่เพียงมีคุณสมบัติช่วยในการป้องกันความร้อนจากภายนอกไม่ให้เข้ามาในตัวบ้านเท่านั้น แต่ยังช่วยดูดซับความร้อนเอาไว้ ไม่ให้แพร่กระจายเข้ามาได้อีกด้วย ผลลัพธ์ที่ได้คืออากาศภายในบ้านเย็นขึ้น อุณหภูมิลดลง โดยเฉพาะในช่วงหน้าหนาวสามารถติดฉนวนกันความร้อนเอาไว้รอบๆ เครื่องทำน้ำอุ่นได้ด้วย เป็นไอเดียที่จะช่วยให้สามารถปรับอุณหภูมิเครื่องให้สูงขึ้นได้ยอย่างรวดเร็ว แต่ใช้พลังงานเท่าเดิม เป็นการประหยัดค่าใช้ไฟฟ้าคูณสอง
อุดรอยรั่วไม่ให้ความร้อนภายนอกเข้ามา และป้องกันแอร์ออก
บ้านไหนที่ใช้เครื่องปรับอากาศตลอดทั้งวัน การลดค่าใช้จ่ายที่ดีคือพยายามสังเกตว่าจุดไหนของห้องที่มีรอยรั่ว ทำให้แอร์หลุดลอดออกไปภายนอก และมีความร้อนจากภายนอกถูกถ่ายเทเข้ามาได้ การที่ห้องไม่ถูกปิดสนิทเช่นนี้ อุณหภูมิในห้องไม่คงที่ ทำให้แอร์ต้องทำงานหนัก เปลืองไฟมากขึ้นกว่าเดิม เป็นการใช้พลังงานให้เสียไปโดยไม่คุ้มค่ากับเงินที่ต้องจ่าย การจัดการกับรูรั่วไม่ใช่แค่ซอกประตูหน้าต่าง แต่ยังรวมไปถึงรอยร้าวตามผนัง หรือรูโหว่เล็กๆ ทั่วไปที่ทำให้อากาศภายนอกและภายในเล็ดลอดเข้าออกได้
เลือกใช้หลอดไฟฟ้าชนิดประหยัดพลังงาน
พลังงานที่สิ้นเปลืองไปในแต่ละเดือน กลายเป็นค่าใช้ไฟฟ้าที่สูงลิ่ว อาจมาจากเครื่องมืออิเล็กทรอนิกส์บางชนิดที่ไร้คุณภาพ ส่งผลให้เกิดการสิ้นเปลืองไฟฟ้าโดยใช่เหตุ หากลองเปรียบเทียบการใช้งานหลอดไฟฟลูออร์เรสเซนต์กับหลอดไฟนีออน จะพบว่าชนิดหลังกินไฟมากกว่ากันถึง 3 เท่า แม้จะให้ความสว่างเท่ากัน ดังนั้นควรเลือกใช้หลอดไฟที่ประหยัดพลังงาน ยิ่งบ้านไหนต้องใช้ความสว่างมาก หลอดแบบคอมแพคฟลูออเรสเซนต์ จะช่วยประหยัดพลังงานได้เกือบ 40 เปอร์เซ็นต์เลยทีเดียว แถมยังมีอายุการใช้งานยาวนานกว่าหลอดไส้ถึง 4 เท่า
ดูแลทำความสะอาด และใช้งานเครื่องใช้ไฟฟ้าให้ถูกต้อง
เครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิดภายในบ้าน จำเป็นต้องได้รับการดูแลอย่างสม่ำเสมอ ซึ่งจะช่วยยืดอายุการใช้งาน อีกทั้งยังเป็นตัวช่วยลดพลังงานไฟฟ้าให้น้อยลงด้วย นอกจากนี้การใช้งานอย่างถูกวิธี จะทำให้ประหยัดค่าไฟในแต่ละเดือน หลักการง่ายๆ คือหมั่นตรวจสอบความผิดปกติอยู่เสมอ อย่างน้อยที่สุดเดือนละ 1-2 ครั้ง โดยเฉพาะเครื่องทำน้ำอุ่น แอร์ และตู้เย็นที่ควรทำความสะอาดให้น้ำแข็งภายในตู้ละลายออกไป ไม่เกาะติดเป็นภูเขาอยู่ในช่องฟรีช ส่วนแอร์ก็ควรเปลี่ยนฟิลเตอร์หรือทำความสะอาดตัวกรองให้สะอาด ก็จะได้ช่วยลดค่าใช้จ่ายลงไปได้หลายเท่า
เพียงเรื่องเล็กน้อยที่หลายคนมองข้ามเล่านี้ จะเห็นได้ว่าเป็นตัวช่วยประหยัดพลังงานที่ไม่ยุ่งยาก ใครๆ ก็สามารถทำได้ ดังนั้นหากอยากลดค่าใช้จ่ายของตัวเองในแต่ละเดือนลง ลองมาปรับพฤติกรรมดูแลเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในบ้านกันให้มากขึ้น