เคล็ดลับน่ารู้กับการประหยัดพลังงานในอาคาร เมื่ออยู่ที่ทำงาน

ทุกวันนี้อากาศที่ร้อนจัด และมีการใช้พลังงานกันอย่างสิ้นเปลืองมากขึ้น จึงได้มีการรณรงค์ให้ประหยัดพลังงาน โดยเฉพาะการประหยัดพลังงานในที่ทำงาน ด้วยการร่วมมือกันระหว่างเจ้าของกิจการและผู้ใช้อาคารทุกคน ซึ่งก็สามารถทำได้ดังนี้

ต้องวางแผนอย่างเป็นระบบ

เป้าหมายจะบรรลุถึงความสำเร็จได้ ต้องเริ่มจากการวางแผนอย่างเป็นระบบ โดยมีหลักการ คือ

1. เจ้าของกิจการให้ความสนับสนุน
2. พนักงานทุกคนตระหนักและมีส่วนร่วม
3. กำลังเป้าหมายและวางแผนการประหยัดพลังงาน
4. ดำเนินการประหยัดพลังงาน
5. ประเมินผลและปรับปรุง

ทำความเข้าใจกับระบบพลังงานในอาคาร ก่อนอื่นจะต้องทำความเข้าใจก่อนว่า ระบบพลังงานที่ใช้ในอาคารนั้นเป็นอย่างไร เพื่อจะได้ดำเนินการประหยัดพลังงานได้อย่างถูกวิธีมากขึ้น ซึ่งส่วนใหญ่ก็จะเป็นระบบแบบส่งลมเย็น ดังนี้

แบบชุดระบายความร้อนโดยอากาศหรือน้ำ

แบบชุดระบายความร้อนแบบนี้ สามารถประหยัดพลังงานได้มากถึง 5-10% ด้วย 2 วิธี คือ

1. การลดชั่วโมงการทำงาน

• ปิดเครื่องทำน้ำเย็น ก่อนเลิกงานประมาณ 15-30 นาที
• ปิดเครื่องส่งลมเย็นในขณะที่พักเที่ยง หรือปิดบริเวณที่ไม่ได้ใช้งาน
• ปิดพัดลมระบายอากาศในห้องน้ำ หลังเลิกงานและวันหยุด

2. ปรับอุณหภูมิอย่างเหมาะสม

• บริเวณทั่วไป ตั้งอุณหภูมิที่ 25 องศาเซลเซียส
• บริเวณทำงานใกล้หน้าต่างกระจก ตั้งอุณหภูมิที่ 24 องศาเซลเซียส
• ในห้องคอมพิวเตอร์ ตั้งอุณหภูมิที่ 23 องศาเซลเซียส

3. เมื่อมีเครื่องทำน้ำเย็นติดตั้งขนานกันหลายเครื่อง

• ปิดเครื่อง วาล์วน้ำเย็นและน้ำหล่อเย็น ของเครื่องสำรอง เมื่ออยู่ในขณะที่มีภาระการทำความเย็นต่ำ
• ทำความสะอาดและหมั่นบำรุงรักษาอุปกรณ์อยู่เสมอ เพราะหากเครื่องมีการชำรุด อาจทำให้สิ้นเปลืองพลังงานมากกว่าเดิมได้

4. ปรับปรุงในส่วนของระบบส่งเย็น

• เลือกใช้เครื่องทำน้ำเย็นที่มีประสิทธิภาพสูง และควรมีจำนวนเครื่องที่จะทำให้เกิดประสิทธิภาพในการทำงานสูงสุด
• ติดตั้งเครื่องปรับอากาศที่มีขนาดเล็กแบบแยกส่วน โดยเครื่องปรับอากาศที่ใช้นั้นจะต้องมีค่า EER สูง
• ปรับปรุงฉนวนท่อน้ำเย็น เพื่อให้เครื่องทำน้ำเย็นใช้ไฟฟ้าลดลง

5. ปรับปรุงในส่วนของระบบส่งลมเย็น

• เลือกใช้เทอร์มอสแตตชนิดอิเล็กทรอนิกส์ จะช่วยประหยัดพลังงานได้ดี เพราะมีความแม่นยำในการกำหนดอุณหภูมิสูง
• ควรทำความสะอาดแผงกรองอากาศอยู่เสมอ เพื่อให้เครื่องส่งลมเย็นทำงานอย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น
• ปรับปรุงฉนวนท่อน้ำเย็น จะทำให้เครื่องทำน้ำเย็นใช้ไฟน้อยลง
• ควรเสริมด้วยอุปกรณ์ควบคุมปริมาณลมและอุปกรณ์สำหรับควบคุมความเร็วรอบมอเตอร์พัดลม เพื่อให้เกิดการทำงานอย่างสมดุลมากขึ้น และใช้พลังงานน้อยลง

6. ใช้ระบบควบคุมอัตโนมัติ

เป็นระบบที่ควบคุมการทำงานของอุปกรณ์ต่างๆ ด้วยคอมพิวเตอร์ ซึ่งจะทำงานอย่างอัตโนมัติ สามารถช่วยประหยัดพลังงานในที่ทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุด พร้อมบันทึกรายงานการใช้พลังงานของเครื่องปรับอากาศอย่างต่อเนื่อง จึงทำให้ทราบถึงข้อบกพร่องที่ควรแก้ไขได้ดี แถมไม่ยุ่งยาก เนื่องจากใช้บุคลากรเพียงคนเดียวในการควบคุมเท่านั้น

เนื่องจากภาวะโลกร้อนและการใช้พลังงานอย่างสิ้นเปลืองในทุกวัน จึงควรร่วมมือกันเพื่อประหยัดพลังงานให้มากขึ้น โดยเฉพาะในอาคารสำนักงาน หรือสถานที่ทำงาน แค่ร่วมมือร่วมใจและดำเนินการอย่างเป็นระบบ ก็สามารถที่จะประหยัดพลังงานได้อย่างมีประสิทธิภาพแล้ว