วิธีใช้และดูแลรักษา “พัดลมไอเย็น” ด้วยตัวเอง ยืดอายุการใช้งานได้ไม่ยาก
เนื่องจากอากาศที่ร้อนแสนอบอ้าวในเมืองไทย แถมด้วยความแปรปรวน เดี๋ยวร้อน เดี๋ยวหนาว จนชวนหงุดหงิด เลยไม่รู้ว่าจะเลือกติดเป็นเครื่องปรับอากาศ หรือใช้ชีวิตแบบประหยัดๆ ด้วยพัดลมดีกว่ากัน เมื่อสภาพอากาศไม่แน่นอนแบบนี้ ทั้งความที่อยู่ดีๆ ก็มีฝนตกในหน้าร้อน แทนที่จะช่วยให้เย็นขึ้น แต่กลับเป็นการระบายเอาความร้อนจากพื้นถนนขึ้นมา ทำให้ไอร้อนเคลื่อนตัวสูงขึ้น แทรกตัวเข้ามาในบ้าน จนทำให้อุณหภูมิสูงขึ้น แบบที่รู้สึกร้อนอบอ้าว และเหนียวตัว
หากจะบอกให้ทุกบ้านติดตั้งแอร์เป็นตัวช่วยเพิ่มความเย็นหลัก อาจจะดูไม่ใช่สิ่งที่จำเป็นสำหรับทุกหลังคาเรือนอย่างที่คิด เพระแท้จริงแล้ว ทุกบ้านสามารถใช้พัดลมที่พัฒนาขึ้นมาจากพัดลมธรรมดา เพื่อช่วยปรับอากาศภายในบ้านให้เย็นลงได้ในราคาที่ถูกลง ดังนั้น พัดลมจึงเป็นสิ่งที่จำเป็น แม้ว่าทุกบ้านจะมีเครื่องปรับอากาศ หากแต่ก็ขาดพัดลมไม่ได้อยู่ดี เทคโนโลยีสมัยใหม่จึงมีการปรับเปลี่ยนจากพัดลมบ้านๆ เป็น "พัดลมไอเย็น" ที่ช่วยคลายร้อนได้ดี ให้ความเย็นสบายแบบธรรมชาติ อากาศในห้องไม่ร้อนหรือหนาวจนเกินไป เป็นอากาศแบบพอดีๆ ที่ใครหลายคนรู้สึกพึงพอใจ
หากใครที่กำลังสนใจ อยากได้พัดลมไอเย็นมาใช้งานแทนเครื่องปรับอากาศ ลองมาดูวิธีใช้ และวิธีดูแลรักษา ซึ่งหากทำได้อย่างถูกต้องแล้ว รับรองว่าปัญหาที่ใครๆ มักบ่นกัน จะกลายเป็นเพียงแค่เรื่องเล็กน้อย แถมความเข้าใจเหล่านี้ ยังช่วยให้อายุการใช้งานของพัดลมไอเย็นยาวนานมากขึ้น คุ้มค่ากับราคาอีกด้วย
ทำความเข้าใจระหว่างพัดลมไอเย็น กับ พัดลมไอน้ำอย่างเข้าใจ
แม้จะแนะนำพัดลมไอเย็นให้กับผู้ที่สนใจ หากก็ยังมีคนส่วนมากที่ยังคิดว่าพัดลมไอเย็นกับพัดลมไอน้ำ คืออุปกรณ์แบบเดียวกัน ต่างกันแค่ในส่วนของชื่อเรียก เอาจริงๆ แล้วก็ถือเป็นคนละประเภทกัน แถมการใช้งานให้ความเย็นยังต่างกันด้วย แม้ชื่อเรียกจะใกล้เคียง ทว่าให้จำไว้หากเป็นพัดลมไอน้ำ การทำงานจะเป็นการพ่นละอองน้ำออกมา ช่วยให้อากาศเย็นลง จะเกิดเป็นละอองน้ำกระจายตัวในอากาศ ขณะที่พัดลมไอเย็น จะทำงานด้วยการดึงความร้อนจากอากาศรอบๆ มาผ่านระบบ และส่งออกมาเป็นอากาศเย็นๆ เรียกระบบนี้ว่า Evaporative Cooling System ความชื้นจะน้อยกว่าพัดลมไอน้ำ จึงสามารถใช้งานในห้องปิดทึบได้ดี
วิธีดูแลรักษาพัดลมไอเย็น
ในการดูแลรักษาทุกครั้งหลังใช้งาน ต้องหมั่นตรวจเช็คสุขภาพของพัดลมอย่างสม่ำเสมอ เพื่อช่วยยืดอายุการใช้งานให้นานขึ้น เมื่อต้องการทำความสะอาด ให้ถอดปลั๊กพัดลมออกก่อนทุกครั้ง เพื่อป้องกันกระแสไฟฟ้า ส่วนของแผ่น Cooling Pad ให้ถอดออกมาล้างทำความสะอาด ด้วยน้ำแรงดันต่ำ ใช้เพียงน้ำธรรมดา โดยไม่ต้องใช้สารเคมีทำความสะอาดใดๆ ทั้งสิ้น การทำความสะอาดส่วนประกอบชิ้นนี้ อย่างน้อยควรแกะออกมาล้างทุกๆ 1 เดือน ส่วนของแผ่น Filter ล้างด้วยน้ำสะอาดเช่นกัน ก่อนจะเช็ดให้แห้ง แล้วนำไปตากในที่ร่มจนแห้งสนิทแล้ว ค่อยนำมาประกอบใช้งานใหม่ โดยให้หมั่นทำความสะอาดทุกๆ 7 วัน เพื่อให้อากาศในห้องเย็นสบาย และสดชื่น ไม่มีกลิ่นอับ
การทำความสะอาดบริเวณถังพักน้ำและตู้ของพัดลมไอเย็น ก็เป็นส่วนที่ต้องใส่ใจด้วย เพราะจะช่วยรักษาสภาพการใช้งานให้พัดลมมีประสิทธิภาพเหมือนใหม่อยู่เสมอ ด้วยการทำความสะอาดอ่างพักน้ำ เช็ดทำความสะอาดตัวเซ็นเซอร์ที่ควบคุมระดับน้ำ ส่วนปั๊มและแผงใส่ฟิลเตอร์ ให้ล้างสิ่งสกปรกออกให้หมด โดยห้ามใช้น้ำยาใดๆ ในการทำความสะอาด เพียงแค่น้ำเปล่า และความสม่ำเสมอ ก็เพียงพอที่จะทำให้พัดลมไอเย็นใช้งานได้คุ้มค่า ให้ความเย็นสบายแบบอากาศธรรมชาติ จนแทบลืมเครื่องปรับอากาศกันไปเลยทีเดียว