ประหยัดพลังงานได้อย่างคุ้มค่ายิ่งขึ้น เมื่อใช้ตู้เย็นอย่างถูกวิธี
ตู้เย็นเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านอีกหนึ่งชนิด ที่มีใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่ต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมงทุกวัน ผู้ใช้งานจึงจำเป็นต้องทำการศึกษาคู่มือการใช้ให้ละเอียด เพื่อความปลอดภัย ทำให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด และการใช้ตู้เย็นอย่างเหมาะสมจะทำช่วยประหยัดพลังงานได้มากขึ้น ลองมาดูข้อมูลดี ๆ เกี่ยวการใช้ตู้เย็นอย่างถูกต้องเหมาะสม ว่าต้องทำอย่างไรบ้าง ดังนี้
ส่วนประกอบและการทำงาน
ภายในตู้เย็นจะประกอบได้ด้วยอุปกรณ์หลัก ๆ ดังนี้
- คอมเพรสเซอร์ เป็นตัวทำหน้าที่ในการอัดและดูดสารทำความเย็น ทำให้ความเย็นหมุนเวียนอย่างทั่วถึงในระบบภายในของตู้เย็น
- แผงทำความเย็น ทำหน้าที่เป็นตัวกระจายความเย็นภายในตู้เย็น
- แผงระบายความร้อน ส่วนนี้จะทำหน้าที่ในการระบายความร้อนของสารทำความเย็น สังเกตได้ง่าย ๆ ว่าแผงระบายความร้อนจะถูกติดตั้งอยู่ทางด้านหลังตู้เย็น
- ตัวตู้เย็น ตัวตู้เย็นจะทำจากโลหะและฉีดโฟมอยู่ระหว่างกลาง เพื่อเป็นฉนวนสำหรับกันความร้อนจากภายนอก ขนาดของตู้เย็นจะมีการระบุเป็นคิว หรือลูกบาศก์ฟุต
- อุปกรณ์อื่น ๆ ได้แก่ อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ สวิตซ์โอเวอร์โหลด และพัดลมกระจายความเย็น ฯลฯ
หลักการทำงานของตู้เย็น
เมื่อทำการเสียบปลั๊กตู้เย็น คอมเพรสเซอร์จะดูดและอัดไอสารทำความเย็นให้สูงขึ้น จากนั้นจะปล่อยให้ไหลไปยังแผงระบายความร้อน เพื่อทำการระบายความร้อนออกสู่ภายนอกและเปลี่ยนกลายเป็นของเหลว หลังจากนั้นจะไหลผ่านวาล์วควบคุมสารทำความเย็น เพื่อลดความดัน แล้วจึงไหลต่อไปที่แผงทำความเย็นเพื่อดูดความร้อนออกจากอาหารและเครื่องดื่มที่เก็บไว้ในตู้เย็น ในขั้นตอนนี้สารทำความเย็นจะถูกเปลี่ยนกลายเป็นไอและกลับไปยังคอมเพรสเซอร์ เพื่อเริ่มวงจรทำความเย็นอีกครั้งใหม่
หลักการใช้ตู้เย็นอย่างถูกวิธีเพื่อประหยัดพลังงานได้อย่างคุ้มค่า
- เปิด – ปิดตู้เย็นบ่อยๆ ทำให้เสียค่าไฟเพิ่มขึ้น เพราะการเปิดปิดตู้เย็นบ่อยๆ นั้นจะทำให้ความร้อนจากภายนอกไหลเข้าไปในตู้เย็น ส่งผลทำให้คอมเพรสเซอร์ต้องทำงานหนัก เพื่อรักษาอุณหภูมิของตู้เย็นให้คงที่เอาไว้
- ติดตั้งตู้เย็นให้ห่างจากแหล่งความร้อน เมื่ออุณหภูมิโดยรอบตู้เย็นสูงขึ้น จะทำให้ความร้อนถ่ายเทเข้าไปในตู้เย็นมากขึ้น ทำให้ระบบทำความเย็นต้องทำงานเพิ่มขึ้น ดังนั้นให้ติดตั้งตู้เย็น ให้ห่างจากแหล่งกำเนิดความร้อน อย่าให้ตู้เย็นรับแสงแดดหรือเครื่องใช้ไฟฟ้าอื่นๆ ที่กระจายความร้อนมาสัมผัสได้อย่างโดยตรง
- อย่าเก็บอาหารในตู้เย็นมากเกินไป การเก็บอาหารเต็มตู้เย็น จะทำให้อุณหภูมิของตู้เย็นไม่คงที่ เพราะอากาศที่อยู่ภายในไหลเวียนไม่สะดวก อย่านำอาหารที่มีอุณหภูมิสูงไปแช่ในตู้เย็น เพราะจะทำให้อาหารอย่างอื่นที่อยู่ในตู้เย็นเสียได้ง่าย ทำให้อายุของคอมเพรสเซอร์สั้นลง เป็นการสูญเสียพลังงานที่เพิ่มขึ้นโดยเปล่าประโยชน์
- เมื่อดึงปลั๊กออก อย่าเสียบปลั๊กทันที เพราะจะทำให้มอเตอร์ต้องทำงานหนัก ทำให้เกิดการชำรุด และทำให้อายุการใช้งานของตู้เย็นสั้นลง
การดูแลรักษาตู้เย็น
- ทำความสะอาดแผงทำความร้อนอยู่เสมอ อย่าปล่อยให้แผงทำความร้อนสกปรก เต็มไปด้วยฝุ่น เพราะจะทำให้ระบายความร้อนได้ไม่เต็มที่ ส่งผลให้มอเตอร์ทำงานหนักจนกลายเป็นสิ้นเปลืองพลังงานเพิ่มขึ้น
- หมั่นตรวจขอบยางประตู หากสังเกตพบว่าขอบยางประตูชำรุด ให้รีบเปลี่ยนทันที เพื่อป้องกันไม่ให้ความร้อนจากภายนอกไหลเข้าสู่ตู้เย็น
การใช้ตู้เย็นอย่างถูกวิธีจะช่วยยืดอายุการใช้งานของตู้เย็นให้นานขึ้น ช่วยประหยัดค่าไฟเพิ่มขึ้น นอกจากนี้การติดตั้งตู้เย็นควรวางตู้เย็นให้ห่างจากผนังอย่างน้อยประมาณ 10 ซม. เพื่อทำให้เกิดการระบายความร้อนได้ดีขึ้น