แนะนำ การซื้อแอร์ที่มีฉลากประหยัดไฟเบอร์ 5 ต้องเลือกอย่างไร
เปิดอ่าน 10,191
เครื่องปรับอากาศนับเป็นเครื่องใช้ไฟฟ้าที่มีความสําคัญในชีวิตประจําวันมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงหน้าร้อน หากท่านมีแผนการจะซื้อเครื่องปรับอากาศเครื่องใหม่ เราขอแนะนําให้ซื้อเครื่องปรับอากาศที่มีเครื่องหมายเบอร์ 5 เท่านั้น เพราะจะประหยัดค่าไฟฟ้าได้มากกว่า
วันนี้จึงขอเสนอ วิธีเลือกซื้อและใช้งานเครื่องปรับอากาศเบอร์ 5 ซึ่งนอกจากจะได้ห้องที่เย็นสบายแล้วยังช่วยให้ท่านประหยัดค่าไฟและช่วยประหยัดพลังงานไฟฟ้าของประเทศอีกด้วย
1. การเลือกซื้อเครื่องปรับอากาศเบอร์ 5 เครื่องปรับอากาศเบอร์ 5 ที่รู้จักกันดีในเรื่องการประหยัดไฟฟ้าจะต้องมีคุณสมบัติดังนี้
- ต้องติดฉลากเบอร์ 5 อย่างถูกต้อง (ระวังฉลากปลอม)เครื่องปรบอากาศรุ่นที่ผ่านการทดสอบเบอร์ 5 จะติดฉลากเบอร์ 5 ใน 2 ที่คือที่แฟนคอยล์และที่ชุดคอนเดนซิ่งคอยล์ดังรูป
- ขนาดและประเภทของเครื่องปรับอากาศเบอร์ 5 เครื่องปรับอากาศเบอร์ 5 มีขนาดไม่เกิน 40,944 บีทียูต่อชั่วโมงรวมทั้งหมด 4 ประเภท คือแบบติดผนัง (Wall type)แบบตั้งพื้น/แขวน (Floor/Ceiling) แบบเปลือย (Duct or Concealed) และแบบสี่ทิศทาง (Cassette)
- ระดับประสิทธิภาพ (Energy Efficiency Ratio หรือEER) เครื่องปรับอากาศเบอร์ 5 ที่ระบุในฉลากจะตองม้ ีค่าประสิทธิภาพ EER ≥ 11.00 ซึ่งค่า EER นี้คํานวณได้จากจํานวนบีทียู/ชั่วโมง หารด้วยจํานวนวัตต์
- ต้องผ่านการรับรองมอก. 2134-2545 หรือ MEPS มาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม(มอก.) เลขที่ 2134-2545 เป็นมาตรฐานประสิทธิภาพพลังงานขั้นต่ํา (Minimum Energy Performance Standard :MEPS) และเป็น มอก.บังคับ ดังนั้น เครื่องปรับอากาศที่ติดฉลากเบอร์ 5 จะมีต้องเครื่องหมายตรามอก.2134-2545 ติดอยู่ด้วย
2. การเลือกประเภทของเครื่องปรับอากาศเครื่องปรับอากาศเบอร์ 5 แบ่งได้เป็น 4 ประเภทดังนี้
- แบบติดผนัง ขนาด 9,000 – 36,000 บีทียู/ชั่วโมงรูปทรงสวยงาม ทํางานเงียบ มีฟังชั่นให้เลือกมาก
- แบบตั้งพื้น/แขวน ขนาด 12,000 – 40,944 บีทียู/ชั่วโมงกระจายลมเย็นได้ดีและไกล มีขนาดใหญ่ ต้องใช้พื้นที่ติดตั้งมาก
- แบบเปลือย ขนาด 25,000 – 40,944 บีทียู/ชั่วโมงเหมาะกับห้องที่เน้นสวยงาม โดยทำตู้ซ่อนหรือฝังอยู่ใต้ฝ้า
- แบบสี่ทิศทาง ขนาด 12,000 – 40,944 บีทียู/ชั่วโมง เหมาะกับห้องที่เน้นสวยงาม โดยติดตั้งฝังเรียบบนเพดานห้อง แต่ยังมีที่ผ่านเกณฑ์เบอร์ 5 น้อยรุ่น
3. การเลือกขนาดของเครื่องปรับอากาศควรเลือกขนาดให้เหมาะกับห้องที่จะติดตั้ง
โดยพิจารณาจากตารางด้านล่างนี้ แล้วนำไปเทียบกับที่มีจำหน่ายจริงในท้องตลาด ซึ่งส่วนใหญ่จะมีขนาด 9,000 , 12,000,15,000, 18,000, 24,000 บีทียู/ชั่วโมง เป็นต้น
4. การใช้งาน การติดตั้งและบำรุงรักษา
- ควรใช้ช่างผู้ชำนาญงาน และควรวางเครื่องปรับอากาศในจุดที่เครื่องจ่ายความเย็นได้ดี เพื่อให้เครื่องทำงานอย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
- หมั่นทำความสะอาดแผ่นกรองฝุ่นทุกๆ เดือนหรือมากกว่าถ้าจำเป็น และทำความสะอาดล้างใหญ่ปีละครั้งเพื่อยืดอายุการใช้งานและช่วยประหยัดไฟ
- ปรับตั้งอุณหภูมิให้เหมาะสมที่ 25- 26 องศาเซลเซียสเพราะอุณหภูมิที่ลดลง 1 องศาฯ จะทำให้ต้องเสียค่าไฟฟ้าเพิ่มประมาณ 10 %
- ปิดเครื่องปรับอากาศทุกครั้งเมื่อไม่ใช้งาน
- ถ้าต้องออกจากห้องเป็นเวลามากกว่าครึ่งชั่วโมง ควรปิดเครื่องปรับอากาศทุกครั้ง