น้ำยาแอร์สมัยนี้ ต้องไม่ทำลายชั้นบรรยากาศ และสิ่งแวดล้อม
ปัจจุบันเครื่องปรับอากาศ แทบจะเรียกได้ว่า มีทุกบ้าน บ้านไหนไม่มีแอร์แทบอยู่ไม่ได้ สำนักงานไหนไม่มีแอร์ ไม่มีคนทำงานแน่นอน (ฮ่าๆ) ก็เพราะทุกบ้านมีแอร์ ทุกที่มีระบบปรับอากาศ สิ่งที่ต้องใช้กันวุ่นวายเลยคือ "น้ำยาแอร์" หรือที่ชื่อเรียกอย่างเป็นทางการก็คือ "สารทำความเย็น" วันนี้เราลองมาทำความรู้จักถึงพิษภัยของน้ำยาแอร์ที่ทุกบ้านมีไว้ครอบครองกันดีกว่า ว่าคุณสมบัติมันเป็นอย่างไร และมีอันตรายอะไรบ้าง
โดยประเภทเด่นๆของน้ำยาแอร์มี 6(7) ประเภทหลักๆ
- น้ำยาแอร์ R134A เป็นสารทำความเย็นราคาแพง ตอนนี้ไม่ใช้แล้ว
- น้ำยาแอร์ R717 เป็นสารทำความเย็นที่ก่อให้เกิดสารพิษ ติดไฟได้ นิยมใช้กับระบบปรับอากาศขนาดใหญ่
- น้ำยาแอร์ R11 สามารถทำงานได้ในสภาวะความดันต่ำๆ มีความปลอดภัย ไม่มีพิษและไม่ติดไฟ
- น้ำยาแอร์ R12 เป็นสารทำความเย็นที่ฮิตมากในปัจจุบัน เพราะว่ามีความปลอดภัย และไม่ติดไฟ ใช้งานได้ในหลายสภาวะ เป็นน้ำยาแอร์ที่เหมาะที่สุดกับคอมเพลสเซอร์ ส่วนมากใช้ในแอร์ ตู้เย็น ตู้แช่
- น้ำยาแอร์ R22 สารตัวนี้คล้ายๆ R12 แต่ว่าจะดีกว่าและมีผลด้านลบกับเครื่องทำความเย็นในระยะยาวดีกว่าตัว R12 ซึ่งส่วนมากจะใช้กับเครื่องปรับอากาศยี่ห้อดังๆ เป็นน้ำยาแอร์มาตรฐานในตอนนี้
- น้ำยาแอร์ R134a สารตัวนี้ถูกยกเลิกการใช้งานไปแล้ว เพราะตรวจเจออันตรายต่อสิ่งแวดล้อมมาก
- * R410A ตัวนี้เป็นน้ำยาแอร์ในอนาคต (ตอนนี้มีใช้บ้างแล้ว) เหมาะมากในเครื่องปรับอากาศรุ่นใหม่ๆ เพราะน้ำยาตัวนี้เป็นผลดีต่อสิ่งแวดล้อม ไม่ทำลายชั้นบรรยากาศ ไม่ทำให้โลกร้อน โดยอนาคตจะมีการทยอยลดการใช้งาน น้ำยาแอร์แบบ R22 ลง แล้วหันมาใช้ R410 กันมากขึ้น ซึ่งแอร์ที่ผลิตออกมารุ่นใหม่ๆ เริ่มทยอยเปลี่ยนกันแล้ว
น้ำยาแอร์มีทั้งผลดีมีทั้งผลเสียแล้วแต่จะเลือกใช้ สำหรับร้านจำหน่าย น้ำยา แอร์ ก็ใช่ว่าจะปลอดภัย เพราะเมื่อไม่กี่ปีที่ผ่านมา ได้มีข่าวใหญ่เกิดเหตุน้ำยาแอร์ระเบิด แถวจังหวัดภูเก็ตทำให้คนได้รับบาดเจ็บมากมาย ทั้งเจ้าจองร้านเองและคนเดิมผ่านไปมา เนื่องจากสาเหตุคือ การอัดน้ำยาแอร์ไว้จนเต็ม โดยใช้ถังที่มีรูรั่วหรือไม่มีประสิทธิภาพ
สาร CFCs คืออะไร
สาร CFCs เคยได้ยินกันไหม (Chloroflurocabon) สารคาร์โรฟลูออโรคาร์บอน เป็นสารประกอบชนิดนึงที่เกิดจากการสังเคราะห์ขึ้นมา โดยสารนี้ไม่มีสี ไม่มีกลิ่น และไม่มีพิษ อ้าว !! แล้วมันมีอันตรายได้อย่างไร ???
ก็เพราะสาร CFC ตัวนี้แหละ เป็นสารประกอบที่ใช้ทำน้ำยาแอร์ R-12 นั่นเอง ซึ่งเมื่อก่อนใช้กันแพร่หลายมาก ในระบบทำความเย็น ยิ่งตู้เย็นนี่เกลื่อนเลย เนื่องจากสาร CFC นี่แหละมีผลกับ Ozone และสะท้อนแสงอาทิตย์เมื่อสะสมในบรรยากาศ ดังนั้นในปี พ.ศ.2533 จึงได้มีการประกาศ ให้มีการเลิกใช้สาร CFC อย่างถาวรเด็ดขาด
เรื่องของสาร HFC ในน้ำยาแอร์ R410a
สาร CFC ยังเป็นส่วนผสมของน้ำยาแอร์ R-22 และ R-123 ซึ่งมีส่วนประกอบจำนวนน้อย แต่จำเป็นต้องใช้จึงยกเลิกไม่ได้ และในปัจจุบันมีการคิดค้นสาน HFC (Hydroflorocabon) ซึ่งสามารถนำมาทดแทน CFC ได้ แต่ต้องเปลี่ยนการใช้งานใหม่ ซึ่งสารตัวนี้ไม่ทำลายสิ่งแวดล้อมเลย โดยปัจจุบันมีการหันมาใช้สารตัวนี้กันมากขึ้น สารตัวนี้จะเป็นส่วนประกอบในน้ำยาแอร์ R-134a, R-407c, R-410a นี่แหละสาเหตุที่เครื่องปรับอากาศในปัจจุบันมีการเปลี่ยนแปลงกันบ่อยขึ้น เพื่อการอนุรักษ์โลกของเราให้น่าอยู่ยิ่งขึ้นนี่เอง