ข้อควรปฏิบัติ ในการทำการ ใช้งาน กับสารไวไฟ รวมไปถึงการแก้ไขเหตุฉุกเฉิน
เปิดอ่าน 8,713
ต่อจากนี้ไปเป็นข้อควรปฏิบัติในการทำการกับสารไวไฟครับ ผมได้ดัดแปลงข้อความบางตอนบ้างเพื่อจะได้เข้าใจกันง่าย ๆ ครับ
ข้อควรระวังในขณะปฏิบัติงาน
- ถังบรรจุและตัวปรับความดัน (REGULATOR) ควรติดตั้งในบริเวณที่มีอากาศถ่ายเทได้ดี ห่างจากวัสดุไวไฟตัวอื่น
- การจัดเก็บภาชนะบรรจุ ควรจัดประมาณ 0.9 เมตร ห่างจากจุดที่เป็นทางเข้าตึก, ที่อับอากาศ หรือหลุมต่าง ๆ ทั้งนี้เพื่อป้องกันการไหลสะสมในจุดที่เป็นที่อับอากาศเหล่านั้น ถ้าเกิดการรั่วไหล
- ภาชนะที่บรรจุควรจัดวางในบริเวณที่ไม่มีสารไวไฟหรือไหม้ไฟได้ เช่น บริเวณที่เป็นพื้นคอนกรีต
- ถังภาชนะที่บรรจุควรมีกล่อง, วัสดุหรือภาชนะกันล้ม, กันตก หรือกันกระแทก
- ถ้าจำเป็นต้องต่อท่อยาง ต้องเสียบสายยางให้ยาวพอสมควร และต้องมีสายรัดให้เรียบร้อย, ปกติสายรัดจะเป็นจุดที่ง่ายต่อการหลุดหรือชำรุด ดังนั้นต้องรีบเปลี่ยนทันทีที่พบว่ามีการชำรุด
- หลังจากการใช้งานทุกครั้งต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าวาล์วและตัปรับความดันทุกตัวได้ทำการปิดเรียบร้อย
วิธีปฏิบัติเมื่อมีการรั่วไหล
ข้อควรระวังทั่วไป
- เมื่อมีการรั่วไหล โอกาสที่สะสมในบริเวณจุดที่ต่ำเช่นบริเวณเหนือพื้นห้องจะมีมาก เนื่องจากสารไวไฟประเภทนี้จะหนักกว่าอากาศ
- เมื่อพบว่ามีการรั่วไหล ต้องรีบกำจัดสารติดไฟตัวอื่นที่อยู่บริเวณข้างเคียงทันที วาล์วที่ต่อกับภาชนะที่บรรจุต้องปิดทันที ประตูหน้าต่างควรเปิดให้มีการถ่ายเทอากาศได้ดี
- เมื่อพบว่าต้องการปล่อยสารไวไฟประเภทนี้จากวาล์วตัวแก๊สเองต้องมีการปรับตัวให้เย็นลงและระมัดระวังตัวถังล้มหรือคว่ำอันเนื่องมาจากแรงดัน
เมื่อพบว่ามีการรั่วไหลจากถังบรรจุ
- อาจสันนิษฐานว่ามีสาเหตุมาจากวาล์วเกิดการรั่วไหลอันเนื่องมาจากแรงกระแทรก หรือการสั่นสะเทือน สิ่งที่ต้องปฏิบัติคือต้องรีบหยุดแหล่งจ่ายความร้อนหรือประกายไฟทันที แล้วหาสาเหตุที่แน่นอน
- กรณีที่ถังชำรุด, แตก ต้องหยุดแหล่งจ่ายความร้อน หรืออะไรก้แล้วแต่ที่อาจก่อให้เกิดไฟได้พร้อมทั้งหาวัสดุกันไฟคลุมแหล่งจ่ายไฟที่อยู่ใกล้เคียง จนกว่าจะสามารถไล่น้ำยาตัวนี้ออกจากระบบได้หมด
การกำจัดภาชนะที่ใช้ในการบรรจุ และเศษของเหลือ
- ภาชนะที่บรรจุสารไวไฟประเภทนี้ ก่อนทำการกำจัดต้องปิดฝาทุกครั้ง
- การกำจัดสารไวไฟประเทนี้ที่ตกค้าง ห้ามทำการปล่อยของเหลือในบริเวณที่ใกล้แหล่งจ่ายความร้อนหรือไฟภายในรัศมี 30 เมตร ในทุกแนวเป็นอันขาด
- การไล่หรือการปล่อยสารไวไฟประเภทนี้ ต้องทำในบริเวณที่มีการถ่ายเทอากาศที่ดี
- ก่อนทำการกำจัดของเหลือ ต้องแน่ใจว่าไม่เป็นอันตรายต่อคน, อุปกรณ์ หรือเครื่องจักร
- ขณะทำการเปิด/ปิดวาล์ว ควรทำด้วยความระมัดระวัง
- ไม่ควรทำการระบายหรือปล่อยสารไวไฟประเภทนี้ในบริเวณที่มีโอกาสเกิดการสะสมได้
- ห้ามเก็บของเหลือของสารไวไฟประเภทนี้ในถังเปล่า
การป้องกันอัคคีภัย
สารไวไฟประเภทนี้ สามารถเป็นได้ทั้งต้นเหตุของการเกิดเพลิง คือ ติดไฟแล้วเป็นต้นเหตุ หรือมีสารอื่นเป็นสาเหตุแล้วลุกลามมาหาสารไวไฟประเภทนี้ วิธีการขั้นต้นที่ครทำเมือ่พบว่ามีการติดไฟของสารไวไฟประเภทนี้คือต้องหยุดการรั่วไหลของสารไวไฟประเภทนี้ให้ได้ โดยการปิดวาล์วที่จ่ายสารไวไฟประเภทนี้แล้วทำการจ่ายน้ำดับเพลิง/ระบบดับเพลิง เพื่อทำการหล่อเย็นระบบ และคบคุมลักษณะของเปลวเพลิง
วิธีการดับเพลิง
- ถ้าไม่สามารถทำการปิดวาล์วที่ป้องกันการรั่วไหลได้ ผลตามมาคือภาชนะที่บรรจุอาจระเบิดได้ วิธีการที่ดีที่สุดคือปล่อยให้มีการเผาไหม้จนหมด
- ถ้ามีระบบป้องกันอัคคึภัย (Sprinkle หรือ Spray water) ให้ฉีดเพื่อทำการควบคุมเปลวเพลิง และให้ความเย็นกับระบบทั้งนี้เพื่อกันการขยายตัวของเพลิง
เหล่านี้เป็นข้อปฏิบัติง่าย ๆ แต่ทำยากที่เรามีหน้าที่ที่จะต้องทำการแนะนำทีมช่างของเราทุกคนให้มีความรู้ในเรื่องนี้ อย่าได้ปล่อยปละละเลย มิฉะนั้นวันหนึ่งเราจะต้องมานั่งเสียใจต่อการที่เราไม่เอาใจใส่ในเรื่องความปลอดภัยนี้